รอยเตอร์ – รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ประกาศลาออกวันนี้ (2 ก.ค.) เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อมาตรการควบคุมโรคที่หละหลวม จนเป็นเหตุให้แดนกีวีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพียงไม่กี่วันหลังรัฐบาลประกาศชัยชนะ
เดวิด คลาร์ก รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักที่เป็นแม่ทัพใหญ่ในการควบคุมโควิด-19 แต่กลับฝ่าฝืนมาตรการล็อกดาวน์เสียเองถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกขับรถพาครอบครัวไปเที่ยวทะเล และครั้งที่สองคือไปปั่นจักรยานบนภูเขา
“ผมเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า การที่ผมยังคงทำงานในบทบาทหน้าที่นี้อาจทำให้มาตรการตอบสนองโควิด-19 โดยรวมของรัฐบาลถูกมองข้ามไป” คลาร์ก เปิดใจในงานแถลงข่าวที่กรุงเวลลิงตัน
นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น เคยปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้ปลด คลาร์ก โดยให้เหตุผลว่ารัฐมนตรีสาธารณสุขมีภารกิจสำคัญที่จะต้องรับมือกับโรคระบาดใหญ่ ทว่าล่าสุดเธอบอกว่า “เห็นด้วย” กับการตัดสินใจของ คลาร์ก
ผลสำรวจความคิดเห็นเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า พรรคแรงงานของ อาร์เดิร์น ยังคงมีคะแนนนิยมแซงหน้าพรรคเนชันแนลที่เป็นคู่แข่ง และคาดว่าจะชนะศึกเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 19 ก.ย. นี้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นหลายครั้งหลายหนในช่วงโควิด-19 มีส่วนทำให้ชาวนิวซีแลนด์สูญเสียความเชื่อมั่นในรัฐบาล
อาร์เดิร์น ประกาศเมื่อต้นเดือน มิ.ย. ว่านิวซีแลนด์สามารถกำจัดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ให้หมดไปจากประเทศได้แล้ว แต่ก็ยอมรับว่าคงจะมีเคสผู้ป่วยใหม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนหลังจากที่รัฐบาลสั่งยกเลิกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและข้อจำกัดต่างๆ
หลังจากนั้นแค่ไม่กี่วันก็มีข่าวว่าหญิง 2 คนซึ่งเดินทางมาจากอังกฤษก็ได้รับการอนุโลมให้ออกจากสถานกักตัวก่อนกำหนด เพื่อเปิดโอกาสให้ไปเยี่ยมบุพการีที่กำลังป่วยหนัก ซึ่งต่อมาพวกเธอถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19
ขณะนี้นิวซีแลนด์มีผู้ป่วยที่เดินทางกลับจากต่างแดนรวมทั้งสิ้น 22 ราย และยังไม่พบเคสที่เกิดจากการแพร่เชื้อภายในประเทศ
อาร์เดิร์น ได้มอบหมายให้ คริส ฮิปกินส์ รัฐมนตรีกระทรวงการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขไปพลางๆ ก่อน และจะพิจารณาแต่งตั้งรัฐมนตรีสาธารณสุขคนใหม่หลังผ่านพ้นศึกเลือกตั้งในเดือน ก.ย. ไปแล้ว