รอยเตอร์ – ภรรยาของ ไมเคิล คอฟริก (Michael Kovrig) หนึ่งในชาวแคนาดาซึ่งถูกทางการจีนจับกุมฐานเป็นสายลับ เรียกร้องวานนี้ (23 มิ.ย.) ให้รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมแคนาดาช่วยแทรกแซงคดีส่งตัว ‘เมิ่ง หว่านโจว’ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐฯ และให้ปล่อยตัวนักธุรกิจหญิงรายนี้เป็นอิสระ
คอฟริก วัย 48 ปี ถูกจับเมื่อเดือน ธ.ค. ปี 2018 และอัยการจีนได้สั่งดำเนินคดีในความผิดฐาน “เป็นสายลับ” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งนอกจาก คอฟริก ก็ยังมีนักธุรกิจชาวแคนาดา ไมเคิล สปาวอร์ (Michaeal Spavor) ที่ถูกจับและโดนข้อหาเดียวกัน
การจับกุมพลเมืองแคนาดาทั้งสองถูกมองว่าเป็นแผนแก้แค้นของจีน หลังจากที่ตำรวจแคนาดาควบคุมตัว เมิ่ง ตามคำขอของสหรัฐฯ ซึ่งต้องการได้ตัวผู้บริหารหญิงหัวเว่ยไปดำเนินคดีฐานฉ้อโกงธนาคาร
วีนา นาจีบุลลา (Vina Nadjibulla) ภรรยาของ คอฟริก ซึ่งอาศัยอยู่ที่เมืองโทรอนโต พยายามต่อสู้เพื่อทวงคืนอิสรภาพให้สามีตั้งแต่เขาโดนจับใหม่ๆ ทว่าเพิ่งจะออกมาเรียกร้องผ่านสื่อเป็นครั้งแรก
“สถานการณ์มันเลวร้ายลงเรื่อยๆ สำหรัยไมเคิล” เธอให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ “เขาถูกห้ามไม่ให้ติดต่อกับใครเลย เราเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องพิจารณาทุกทางเลือก เวลาของเราเหลือน้อยเต็มที”
นาจีบุลลา ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายฟันธงว่ารัฐมนตรียุติธรรมมีอำนาจที่จะยับยั้งกระบวนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้ในทุกขั้นตอน หากเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของชาติ และไม่ต้องรอจนกว่าคดีจะสิ้นสุด
“ทางเลือกที่จะยุติการส่งผู้ร้ายข้ามแดนยังอยู่ภายใต้หลักนิติธรรม” เธอกล่าว “และนั่นอาจเป็นหนทางที่จะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ให้กับ ไมเคิล ทั้งสอง”
กระทรวงยุติธรรมแคนาดาแถลงว่า ทางกระทรวงทราบดีว่า คอฟริก, สปาวอร์ และครอบครัวของทั้งสอง ต้องได้รับความลำบากมากเพียงใดจากการถูกจีน “กักขังตามอำเภอใจ”
อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงอธิบายว่าในทางนโยบายแล้วกระทรวงจะต้องใช้อำนาจผ่านตัวแทน จนกว่าผู้พิพากษาจะมีคำตัดสินส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่เสียก่อน เมื่อนั้นรัฐมนตรีจึงจะตัดสินใจอีกครั้งว่าจะสั่งปล่อยตัว เมิ่ง หรือไม่
คอฟริก ถูกแยกขังเดี่ยวมานานหลายเดือนหลังถูกจับกุม และแม้ว่าตอนนี้จะมีเพื่อนนักโทษอยู่ด้วย แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมาภายนอกห้องขังได้
ครอบครัวของ คอฟริก ได้คุยโทรศัพท์กับเขาครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มี.ค. และได้รับจดหมายฉบับสุดท้ายจากเขาในอีก 1 เดือนถัดมา ก่อนจะไม่สามารถติดต่อได้อีก
คอฟริก เดินทางไปจีนเมื่อปี 2013 ในฐานะนักการทูต แต่ย้ายมาทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับองค์กร International Crisis Group ซึ่งเป็นกลุ่มเอ็นจีโอที่เน้นเรื่องการแก้ไขข้อพิพาทต่างๆ ก่อนจะถูกจับกุม
นาจีบุลลา เล่าว่าเธอเดินทางออกจากจีนเมื่อปี 2017 หลังแยกทางกับสามี แต่ยังคงเป็นตัวตั้งตัวตีในการช่วยเหลือเขาจนถึงทุกวันนี้ โดยเธอยืนยันว่า “ไมเคิล ไม่ได้ทำอะไรผิด”