เอเจนซีส์/mgrออนไลน์ – นาสการ์ (NASCAR) แถลงค่ำวานนี้(22 มิ.ย)ว่า พบ “บ่วงรัดคอ”ที่เป็นสัญลักษณ์การรัดคอนิโกรในอดีตในโรงรถ บับบา วอลเลซ ( Bubba Wallace) นักขับแอฟริกันอเมริกันมืออาชีพคนเดียวที่สนามแข่งรัฐแอละแบมา เกิดขึ้นในวันที่มีเครื่องบินส่งธงคอนเฟอเดอเรตแสดงสนับสนุนการเป็นทาสฝ่ายใต้เหนือท้องฟ้าสนามแข่งให้เห็นหลังนาสการ์ออกกฎเข้มห้ามเอาธงเข้าสนาม 2 วันหลังผู้ประท้วงแบล็กไลฟ์แมทเทอร์โค่นพร้อมจุดไฟเผาอนุสาวรีย์นายพลกองทัพคอนเฟเดเรตฝ่ายใต้ในกรุงวอชิงตัน ดีซี
เดอะการ์เดียนรายงานเมื่อวานนี้(22 มิ.ย)ว่า เหตุการพบบ่วงรัดคอที่แสดงถึงสัญลักษณ์แสดงความเกลียดชังที่มีต่อนิโกรในอดีตเกิดขึ้น 2 สัปดาห์หลังจากที่ บับบา วอลเลซ ( Bubba Wallace) นักขับแอฟริกันอเมริกันมืออาชีพที่ขับรถเชฟโรเลตหมายเลข 43 ให้กับทีมริชาร์ด เพตตี( Richard Petty) ประสบความสำเร็จในการหว่านล้อมให้นาสการ์(NASCAR)ประกาศห้ามมีธงคอนเฟดเดอเรตภายในสนามแข่งและทรัพย์สินของนาสการ์
ทั้งนี้ ธงคอนเฟดเดอเรต เป็นธงของกองทัพรัฐฝ่ายใต้ที่ต้องการให้นิโกรยังคงเป็นทาสอยู่ในสหรัฐฯซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนการเป็นทาสที่เทียบเท่ากับการค้ามนุษย์ในสมัยปัจจุบันและยังเป็นสัญลักษณ์แสดงให้เห็นถึงการกีดกันทางสีผิวเหมือนเช่น บ่วงรัดคอ ที่ถูกใช้กันมากในอดีตจากการแขวนคอนิโกรจำนวนมากที่ตายจากฝีมือของอเมริกันผิวขาว ซึ่งในรายการของ MSNBC สุดสัปดาห์มีรายงานการพบแอฟริกันอเมริกันถูกแขวนคอล่าสุดแต่ไม่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับการแขวนคอที่เรียกว่า lynching เช่นในอดีตหรือไม่
นาสการ์ประกาศผ่านแถลงการณ์ในช่วงค่ำวันอาทิตย์(21) “ช่วงบ่ายแก่ของวันนี้ทางนาสการ์รับรู้ว่ามี “บ่วงรัดคอ” ถูกพบในโรงรถของทีมแข่งหมายเลข 43” และเสริมว่า “เราโกรธมากและไม่พอใจอย่างที่สุดและไม่สามารถที่จะพูดออกมาหมดได้ถึงความร้ายแรงที่ได้เกิดขึ้น เราได้จัดการสอบสวนในเรื่องนี้ทันที และจะทำทุกอย่างเพื่อที่จะหาตัวคนที่อยู่เบื้องหลังรับผิดชอบและจะทำให้ออกไปจากการกีฬา”
และเสริมต่อว่า “เราขอประกาศอย่างชัดเจนว่าจะต้องไม่มีที่สำหรับความเกลียดชังในสนามแข่งนาสการ์และจากเหตุการณ์ครั้งนี้จะยิ่งทำให้เรามุ่งมั่นทำให้การกีฬานั้นเปิดกว้างและต้อนรับทุกคน”
วอลเลซได้แถลงผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “การกระทำที่น่ารังเกียจของการกีดกันเชื้อชาติและความเกลียดชังนี้ทำให้เขารู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมากและมีความเจ็บปวดที่ต้องรำลึกว่าเราต้องไปไกลมากเพียงใดในสังคมและการต้านทานมากเพียงใดที่พวกเราต้องมีในการต่อสู้กับการเหยียดสีผิว”
วอลเลซซึ่งเป็นชาวแอละแบมาวัย 26 ปีกล่าวต่อว่า “แม่ได้บอกผมวันนี้ว่าคนพวกนั้นต้องการที่จะทำให้ผมกลัวเท่านั้น” และเขากล่าวต่อว่า “แต่สิ่งนี้จะไม่ทำลายผมมันจะไม่ทำให้ผมต้องอ่อนข้อหรือยอมแพ้ ผมจะยังคงยืนหยัดอย่างภาคภูมิในสิ่งที่ผมเชื่อต่อไป”
ด้าน แอนดรูว์ เมอร์สตีน (Andrew Murstein)เจ้าของร่วมทีมริชาร์ด เพตตี มอเตอร์สปอร์ตส์ (Richard Petty Motorsports)ให้สัมภาษณ์สื่อกีฬาแสดงความรู้สึกตกใจและเศร้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นโดยกล่าวว่า “คุณคงจะคิดว่าประเทศได้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นในช่วงเวลา 40 กว่าปีมานี้ แต่เป็นที่น่าเสียดายในหลายสิ่งยังคงเหมือนเดิม”
นักกีฬา NBA ชื่อดังสหรัฐฯ เลอบรอน เจมส์( LeBron James)ได้ออกมาแสดงความรู้สึกทันทีทางทวิตเตอร์ในวันอาทิตย์(22)ไปยังวอลเลซโดยกล่าวแสดงความรู้สึกเศร้าใจและขยะแขยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมชี้ว่าวอลเลซไม่ได้ยืนอยู่ตามลำพังแต่มีเพื่อนนักกีฬาคนอื่นด้วย และเขาภาคภูมิใจที่วอลเลซลุกขึ้นสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงในสหรัฐฯและในแวดวงกีฬา
เดอะการ์เดียนรายงานว่า การแข่งรถนาสการ์ที่สนามแข่งรัฐแอละแบมาในวันอาทิตย์(21) ซึ่งถือเป็นการแข่งกีฬาครั้งแรกที่ได้รับอนุญาตให้มีผู้เข้าร่วมชมภายในสนามแข่งได้หลังวิกฤตโควิด-19 ที่มีบัตรเข้าชมจำหน่ายแค่ 5,000 ใบเท่านั้น พบว่านาสการ์ได้มีการห้ามใช้ธงคอนเฟดเดอเรตที่จุดเริ่มต้น
สื่ออังกฤษชี้ว่า แต่ทว่ากลับมีผู้ประท้วงที่ไม่พอใจคำสั่งนาสการ์ด้วยการส่งเครื่องบินบินธงคอนเฟดเดอเรตเหนือท้องฟ้าสนามแข่งให้เห็นอย่างท้าทายโดยบินวนรอบสนามแข่งพร้อมกับมีข้อความติดที่สามารถอ่านได้จากระยะไกลว่า “เลิกให้เงินนาสการ์” (DEFUND NASCAR)
นอกจากนี้กลุ่มผู้ประท้วงที่ต่อต้านคำสั่งแบนธงยังจัดรถคอนวอยเต็มขบวนมีมอเตอร์ไซค์นำพร้อมกับรถแต่ละคันที่อยู่ในขบวนติดธงคอนเฟดเดอเรตให้เห็นแบบจะๆบนถนนด้านนอกสนามแข่งนาสการ์ที่สนามทัลลาเดกา ซุปเปอร์สปีดเวย์( Talladega Superspeedway)ที่เป็นจุดเกิดเหตุวันอาทิตย์(22)
