รอยเตอร์ – ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยืนยันวานนี้ (17 มิ.ย.) ว่าอเมริกาจะไม่กลับไปใช้มาตรการปิดเมืองอีก แม้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะพุ่งสูงขึ้นในหลายมลรัฐก็ตาม
“เราจะไม่ปิดประเทศอีก เราไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น” ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์
คำยืนยันจากผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจาก แลร์รี คัดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของทำเนียบขาว และ สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ออกมาพูดเช่นเดียวกันว่าสหรัฐอเมริกาจะยอมให้มีการปิดเศรษฐกิจอีกไม่ได้
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับผู้ว่าการรัฐต่างๆ โดยขอร้องให้ช่วยโปรโมตคำกล่าวอ้างของรัฐบาลกลางที่ว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นเพราะสหรัฐฯ ขยายการตรวจคัดกรอง
อย่างไรก็ตาม บทวิเคราะห์ของนิวยอร์กไทม์สพบว่า เคสผู้ป่วยใหม่มีจำนวนมากกว่าค่าเฉลี่ยการตรวจคัดกรองในอย่างน้อย 14 มลรัฐ
ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลซึ่งก็มากขึ้นตามไปด้วย สะท้อนแนวโน้มที่น่ากังวลหลังจากสหรัฐฯ เคยมีผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงต่อเนื่องมานานกว่า 1 เดือน
รัฐโอคลาโฮมามีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ 259 รายในรอบ 24 ชั่วโมง ส่วนที่ฟลอริดาและแอริโซนามีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 2,600 คน และ 1,800 คน ตามลำดับ ซึ่งเป็นสถิติผู้ป่วยรายวันสูงสุดอันดับ 2 สำหรับทั้ง 2 รัฐ
ทางการสหรัฐฯ ได้สั่งปิดภัตตาคาร, โรงยิม, โรงเรียน และสถานที่สาธารณะอื่นๆ ในเดือน มี.ค. เพื่อสกัดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ซึ่งจนถึงตอนนี้อเมริกามีผู้ป่วยสะสมสูงกว่า 2.16 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 118,000 คน
การมาของโควิด-19 ยังทำให้ชาวอเมริกันหลายสิบล้านคนต้องตกงาน ซึ่งถือเป็นลางร้ายสำหรับ ทรัมป์ ที่พยายามชูผลงานด้านเศรษฐกิจเป็นหัวใจสำคัญในการหาเสียงเพื่อรั้งเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ อีกสมัยในเดือน พ.ย. นี้