เอเอฟพี - โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ร้องขอ สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ช่วยให้เขาได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้ง 2020 กลับมาดำรงตำแหน่งประมุขทำเนียบขาวอีกสมัย ตามการเปิดโปงของ จอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาของประธานาธิบดีอเมริกา ที่เขียนแฉเรื่องราวดังกล่าวในหนังสือเล่มใหม่
จากเนื้อหาบางส่วนของหนังสือบันทึกความทรงจำของเขาที่มีชื่อว่า “The Room Where It Happened” ที่เผยแพร่ในวันพุธ (17 มิ.ย.) โบลตัน แฉว่าระหว่างการพบปะกับ สี เมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน ทรัมป์ สร้างความตะลึงงันด้วยการเปลี่ยนบทสนทนาเข้าสู่ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พูดเป็นนัยว่าศักยภาพทางเศรษฐกิจของจีนจะส่งผลกระทบต่อการหาเสียงเลือกตั้งที่กำลังดำเนินอยู่ พร้อมกับร้องขอสี ให้หาทางรับประกันว่าเขาจะได้รับชัยชนะ
ในเนื้อหาบางตอนของหนังสือที่เผยแพร่โดยวอชิงตันโพสต์, นิวยอร์กไทม์ส และวอลลสตรีท เจอร์นัล โบลตันได้บอกเล่าผ่านตัวหนังสือด้วยว่า ทรัมป์ เน้นย้ำถึงความสำคัญของเหล่าเกษตรกรอเมริกา และพยายามชี้ให้เห็นว่าการที่จีนยกระดับการซื้อถั่วเหลืองและข้าวสาลีจะส่งผลกระทบต่อศึกเลือกตั้งที่กำลังมาถึงในสหรัฐฯมากแค่ไหน
“ผมอยากตีพิมพ์คำพูดจริงๆ ของทรัมป์ แต่กระบวนการพิจารณาบทความก่อนตีพิมพ์ของรัฐบาลตัดสินใจเป็นอย่างอื่น” โบลตันกล่าว อ้างถึงกระบวนการที่กำหนดให้หน่วยงานต่างๆของสหรัฐฯตรวจสอบเนื้อหาของหนังสือก่อนการตีพิมพ์
โบลตันยังได้เล่าถึงพฤติกรรมของทรัมป์ในเหตุการณ์ต่างๆ นานา ซึ่งเขาบอกว่า “ดูหมือนการขัดขวางกระบวนการยุติธรรมจะเป็นแนวทางหนึ่งของวิถีชีวิต ซึ่งเราไม่อาจยอมรับได้”
การเปิดโปงทิ้งระเบิดครั้งนี้มีขึ้นไม่กี่เดือน หลังจากทรัมป์รอดพ้นจากการถูกถอนพ้นจากตำแหน่งในกระบวนการของสภาผู้แทนราษฎร และตามด้วยวุฒิสภา ในขณะที่ศึกชิงเก้าอี้ทำเนียบขาว ระหว่างเขากับ โจ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต ใกล้เข้ามาทุกขณะ
โบลตัน นักการเมืองหัวอนุรักษนิยม มีห้วงเวลาที่ยุ่งเหยิงตลอด 17 เดือนที่อยู่ในทำเนียบขาว ก่อนลาออกไปเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานในเวลานั้น การทำงานระหว่างทีมงานด้านความมั่นคงของทรัมป์กับสภาความมั่นคงแห่งชาติที่นำโดยโบลตัน เกิดปัญหาในการประสานงานอย่างหนัก สืบเนื่องจากความไม่ลงรอยในนโยบายต่างประเทศตั้งแต่อัฟกานิสถานไปจนถึงอิหร่าน
อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธเข้าให้การระหว่างกระบวนการถอดถอนของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน โดยบอกว่าเขาจะยอมไปให้การก็ต่อเมื่อถูกบังคับโดยศาลเท่านั้น
หลังกระบวนการถอดถอนทรัมป์จบลง โบลตันระบุในเดือนมกราคมว่าเขาจะไปให้ปากคำต่อกระบวนการพิจารณาของวุฒิสภาก็ต่อเมื่อได้รับหมายเรียก แต่สมาชิกรีพับลิกันในวุฒิสภาขัดขวางความพยายามดังกล่าวจากพรรคเดโมแครต