รอยเตอร์ - ศาลสูงสุดของบราซิลเข้ามาแทรกกลางในประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับการรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตและติดเชื้อโควิด-19 ของทางการ ด้วยศาลฎีกาในวันอังคาร (9 มิ.ย.) ตัดสินว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขต้องเผยแพร่ชุดข้อมูลที่ผ่านๆ มาอย่างครบถ้วน
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขของบราซิลดำเนินการอย่างฉับพลันถอดรายละเอียดข้อมูลโดยรวมเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ออกจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ และบอกว่าจะไม่เผยแพร่ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสะสมอีกต่อไป โดยจะรายงานเพียงแค่จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายใหม่ภายใน 24 ชั่วโมงเท่านั้น
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวโหมกระพือความขุ่นเคืองจากทั่วทุกฝ่ายทางการเมือง
ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของศาลฎีกาในช่วงเช้าวันอังคาร (9 มิ.ย.) ผู้พิพากษาอเล็กซานเดร เดอ โมราเอส ระบุว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขต้องกลับมาดำเนินการแพร่ข้อมูลรายวันด้านวิทยาการระบาด เกี่ยวกับโรคระบาดใหญ่โควิด-19 อย่างครบถ้วนอีกครั้ง ในนั้นรวมถึงบนเว็บไซต์ของกระทรวง ภายใต้เงื่อนไขที่เคยนำเสนอจนถึงเมื่อวันพฤหัสดีที่แล้ว”
เอดูอาร์โด ปาซุเอลโล รักษาการรัฐมนตรีสาธารณสุขบราซิล กล่าวระหว่างประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น บอกว่า รัฐบาลไม่เคยมีเจตนาปรับแก้ตัวเลขผู้เสียชีวิต และไม่มีใครในรัฐบาลที่เคยบ่งชี้ว่าตัวเลขกล่าวเป็นการรายงานเกินจริง
เขาอ้างว่า การบันทึกยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 โรคที่เกิดจากไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ จากวันเวลาที่เสียชีวิต แทนวันเวลาที่จดบันทึก เป็นการสะท้อนภาพเส้นกราฟที่แท้จริงของโรคระบาดใหญ่ได้ดีกว่า
พวกผู้เชี่ยวชาญแสดงความกังวลว่าการไม่ยอมเผยแพร่ยอดติดเชื้อและเสียชีวิตสะสม และเผยแพร่ตัวเลขการตายเฉพาะที่เกิดขึ้นใน 24 ชั่วโมง อาจทำให้เคสต่างๆ ของกรณีบางคนมีผลตรวจออกมาเป็นบวกหลายวันหลังเสียชีวิตแล้ว อาจถูกซุกซ่อนจากสายตาของสาธารณชน
ผู้พิพากษาโมราเอส บอกว่า การกระทำของรัฐบาลในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส และยากที่จะใช้นโยบายควบคุมและป้องกันโรคอย่างเพียงพอ
จากการนับของรอยเตอร์ ในบราซิลมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่แล้วมากกว่า 700,000 คน สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ และยอดเสียชีวิตเวลานี้พุ่งเหนือ 37,000 คน
ในวันอังคาร (9 มิ.ย.) เช่นกัน ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ของบราซิล ขู่ถอนบราซิลพ้นจากองค์การอนามัยโลก โดยอ้างว่าองค์การอนามัยโลกดำเนินการโดยโร้ความรับผิดชอบตอนที่โรคระบาดใหญ่ปรากฏตัวขึ้นมา และสูญเสียความน่าเชื่อถือไปแล้ว