เอเอฟพี - จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกทะลุหลัก 7 ล้านคน ในวันจันทร์ (8 มิ.ย.) ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในละตินอเมริกายังพุ่งขึ้นไม่หยุด อย่างไรก็ดี โลกเริ่มมีความหวัง ภายหลังนิวซีแลนด์ประกาศชัยชนะเหนือวิกฤตโรคระบาด และจะยกเลิกมาตรการจำกัดภายในประเทศทั้งหมดหลังเที่ยงคืนวันจันทร์
ทางด้านยุโรปยังคงเดินหน้าปลดล็อกมาตรการปิดเมืองอย่างต่อเนื่อง ประชาชนในประเทศต่างๆ เริ่มกลับไปใช้ชีวิตแบบปกติอย่างช้าๆ ขณะที่ภาครัฐพยายามฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน
อังกฤษเผยว่า จะเปิดให้ประชาชนเข้าทำพิธีในโบสถ์ตั้งแต่วันที่ 15 เดือนนี้ แต่ขณะเดียวกัน รัฐบาลเริ่มบังคับใช้มาตรการกักตัวนาน 2 สัปดาห์ สำหรับนักเดินทางส่วนใหญ่ที่เดินทางเข้าประเทศ
เรื่องนี้ทำให้ บริติช แอร์เวย์ส รวมถึงสายการบินต้นทุนต่ำ อีซี่เจ็ต และ ไรอันแอร์ ออกคำแถลงร่วมระบุว่า มาตรการดังกล่าวจะทำลายอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและซ้ำเติมปัญหาการว่างงาน
ด้าน สหภาพยุโรป (อียู) เผยว่า อาจเปิดพรมแดนรับนักเดินทางจากนอกกลุ่มต้นเดือนหน้า
ในวันอาทิตย์ (7) พระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงประกาศกับชาวคาทอลิกที่สามารถไปรวมกันในจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ของนครวาติกันเป็นครั้งแรกนับจากไวรัสโคโรนาระบาด ว่า สถานการณ์เลวร้ายที่สุดในอิตาลีสิ้นสุดลงแล้ว แต่ในหลายประเทศไวรัสยังคงคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งละตินอเมริกา ซึ่งกลายเป็นภูมิภาคศูนย์กลางของการระบาดในเวลานี้ ทั้ง บราซิล เม็กซิโก เปรู ต่างมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทำสถิติ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกที่ได้รับการยืนยันทะลุ 400,000 คน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อที่รายงานกันก็สูงกว่า 7 ล้านคน
วิกฤตในบราซิลทวีความรุนแรงและทำให้แดนแซมบ้ากลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลกด้วยตัวเลขกว่า 36,000 คน กระนั้น ประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนารู ยังคงยืนยันว่า ไวรัสโคโรนาไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่กลัวกัน
ทางด้านชิลียืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 2,290 คน หลังจากแก้ไขตัวเลขที่คำนวณผิดพลาดในเดือนมีนาคมและเมษายน
ยังดีที่ในคิวบา ประธานาธิบดี มิเกล ดิอัซ-กาเนล ประกาศว่า สามารถควบคุมโรคระบาดนี้ได้แล้ว หลังจากชาติคอมมิวนิสต์ซึ่งระบบสาธารณสุขเป็นที่ยอมรับนับถือกันรายนี้ รายงานว่า ไม่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เลยต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 8 ทำให้จำนวนผู้ที่ตายยังคงอยู่ที่ 83 ราย
ไวรัสโคโรนาที่ปรากฏขึ้นที่จีนเมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้ประชากรกว่าครึ่งโลกต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และผลักดันเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะขาลงที่เลวร้ายที่สุดนับจากวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำในทศวรรษ 1930
อย่างไรก็ตาม เอเชียและโลกมีข่าวดีที่เป็นความหวัง หลังจากในวันจันทร์นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ประกาศชัยชนะเหนือไวรัสโคโรนา จากรายงานที่ระบุว่า ไม่มีผู้ติดเชื้อซึ่งเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นวันแรก
นิวซีแลนด์กำหนดจะยกเลิกมาตรการจำกัดภายในประเทศทั้งหมดหลังเที่ยงคืนวันจันทร์ หลังจากไม่พบผู้ติดเชื้อใหม่ติดต่อกัน 17 วัน
ข่าวดีนี้ทำให้สมาคมรักบี้นิวซีแลนด์ประกาศเริ่มการแข่งขันภายในประเทศอีกครั้งในสัปดาห์นี้ และถือเป็นการแข่งขันกีฬาระดับอาชีพเกมแรกของโลกที่เปิดให้ผู้ชมเข้าเชียร์ในสนาม
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ไทยไม่พบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นติดต่อกัน 2 สัปดาห์ โดยเคสใหม่ที่พบล้วนเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและอยู่ระหว่างการกักตัว
ไทยเป็นประเทศแรกนอกจีนที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อเดือนมกราคม แต่มีผู้เสียชีวิตเพียง 58 คน ซึ่งถือว่า น้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในประเทศอื่นๆ ของเอเชียยังน่าวิตก โดยเฉพาะอินเดียที่จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตยังพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
กระนั้น หลังจากล็อกดาวน์นาน 10 สัปดาห์ รัฐบาลอินเดียยอมเสี่ยงผ่อนคลายมาตรการจำกัดเพื่อปลดล็อกเศรษฐกิจ ห้างสรรพสินค้าและศาสนสถานในหลายเมืองเริ่มเปิดอีกครั้งตั้งแต่วันจันทร์