เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในวันเสาร์ (30 พ.ค.) ว่าเขาจะชะลอการประชุมซัมมิตของกลุ่ม 7 ชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (จี7) ที่กำหนดเอาไว้ในเดือนมิถุนายนออกไปก่อน รวมทั้งจะเชื้อเชิญประเทศอื่นๆ อย่างออสเตรเลีย, รัสเซีย, เกาหลีใต้ และอินเดีย เข้าร่วมการพบปะที่จะนัดหมายกันขึ้นมาใหม่
ขณะพูดกับพวกผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินประจำตำแหน่ง “แอร์ฟอร์ซวัน” ระหว่างการเดินทางกลับกรุงวอชิงตันภายหลังไปชมปฏิบัติการของสเปซเอ็กซ์ในการส่งมนุษย์อวกาศของสู่สถานีอวกาศนานาชาติที่ศูนย์อวกาศเคนเนดี ในรัฐฟลอริดา ทรัมป์บอกว่า จี 7 ในรูปแบบปัจจุบันได้กลายเป็น “กลุ่มของประเทศที่ล้าสมัยมากๆ”
“ผมกำลังเลื่อน (การประชุมซัมมิต) ออกไป เพราะผมไม่รู้สึกว่าในฐานะที่เป็น จี7 มันเป็นตัวอย่างอันถูกต้องเหมาะสมสำหรับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในโลกนี้” ทรัมป์กล่าว
เขาบอกว่า ปรารถนาที่จะเชื้อเชิญรัสเซีย, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย และอินเดีย เข้าร่วมการประชุมซัมมิตที่ขยายวงกว้างขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงนี้ โดยอาจจะจัดขึ้นก่อนหน้าหรือหลังจากการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ทรัมป์ยังพูดต่อไปด้วยว่า “บางทีผมจะทำเรื่องนี้หลังการเลือกตั้งก็ได้”
ทั้งนี้ชาวอเมริกันมีกำหนดไปออกเสียงตอนต้นเดือนพฤศจิกายนเพื่อเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยที่ทรัมป์พยายามอย่างหนักในการเพื่อเรียกคะแนนโหวตจากผู้ออกเสียง ทั้งด้วยการผลักดันให้การดำเนินชีวิตที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้กลับคืนสู่ภาวะปกติ ถึงแม้มีเสียงเตือนจากวงการแพทย์เรื่องโรคระบาดยังไม่ทันสงบลงและเสี่ยงต่อการเกิดระบาดรอบสอง ตลอดจนด้วยการมุ่งทำให้เศรษฐกิจซึ่งซบเซาหนักจากโควิด-19 กลับคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง
ทรัมป์ซึ่งเรียกการประชุมขยายวงเช่นนี้ว่าเป็น “จี 10 หรือ จี 11” กล่าวว่าเขาได้พุดคุยหัวข้อนี้ “อย่างคร่าวๆ” กับพวกผู้นำของ 4 ประเทศซึ่งเขาเสนอให้เพิ่มเข้ามาแล้ว
ด้านโฆษกทำเนียบขาว อลิซซา ฟาราห์ แถลงว่า ทรัมป์ต้องการให้ประเทศต่างๆ เหล่านี้หารือกันในเรื่องจีน ณ การประชุมซัมมิตครั้งนี้
พวกผู้นำของกลุ่ม จี 7 ซึ่งสหรัฐฯเป็นประธานประจำปีนี้ มีกำหนดพบปะหารือกันทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ตอนปลายเดือนมิถุนายน หลังจากโควิด-19 ขัดขวางแผนการที่จะประชุมแบบพบปะเจอตัวกัน ณ แคมป์เดวิด สถานที่ปลีกวิเวกสำหรับประธานาธิบดีสหรัฐฯซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กรุงวอชิงตัน
อย่างไรก็ดี ประมาณ 1 สัปดาห์เศษก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้สร้างความสงสัยไม่แน่ใจเมื่อเขาพูดว่าเขาอาจจะจัดการประชุมซัมมิต จี 7 แบบพบปะเจอหน้ากันขึ้นมา “โดยหลักๆ แล้วที่ทำเนียบขาว” แต่ก็อาจมีบางส่วนไปจัดที่แคมป์เดวิด
ปรากฏว่า อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กลายเป็นผู้นำคนแรกที่ปฏิเสธอย่างชัดเจนว่าจะไม่รับคำเชิญให้เข้าร่วมการพบปะแบบตัวเป็นๆ
“พิจารณาจากสถานการณ์โรคระบาดโดยรวมแล้ว ท่านนายกฯไม่สามารถเห็นชอบกับการเข้าร่วมด้วยตนเอง ด้วยการเดินทางไปกรุงวอชิงตัน” โฆษกของเธอแถลงในวันเสาร์ (30)
คำตอบเช่นนี้ของเธอออกมาภายหลังพวกผู้นำจากอังกฤษ, แคนาดา, และฝรั่งเศส แสดงการตอบรับคำเชิญในลักษณะกำกวมไปจนถึงท่าทีเชิงบวกแบบกว้างๆ
นายกรัฐมนตรีหญิงของเยอรมนีผู้นี้อายุ 65 ปี ถือเป็นผู้นำ จี7 ที่อายุมากที่สุดรองจากทรัมป์ ผู้มีอยู่ในวัย 73 ขณะที่นายกฯชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นก็มีอายุ 65 ทว่าอ่อนเดือนกว่าแมร์เคิลหลายเดือน อายุของผู้นำหล่านี้ทำให้พวกเขามีความเสี่ยงสูงขึ้นจากไวรัสโคโรนา
จี7 ซึ่งประกอบด้วยสหรัฐฯ, ญี่ปุ่น, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, อิตาลี และแคนาดา จัดการประชุมระดับสุดยอดกันเป็นประจำทุกปีเพื่อหารือกันในเรื่องความร่วมมือทางเศรษฐกิจและทางการเมืองระหว่างประเทศ
จีนนั้นปฏิเสธไม่ยอมเข้าร่วมการประชุมในลักษณะที่ปักกิ่งวิจารณ์ว่าคือการที่พวกประเทศใหญ่รวมตัวหารือแบ่งเค้กกันเช่นนี้ ขณะรัสเซียเคยได้รับเชิญเข้าร่วมอยู่หลายปีทำให้ จี 7 กลายเป็น จี 8 แต่ได้ถูกขับไสออกมาเมื่อปี 2014 หลังมอสโกเข้ายึดแหลมไครเมียจากยูเครน และผนวกดินแดนเก่าของตนแห่งนี้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศรัสเซีย
