เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในรัฐมิสซูรี ประณามฝูงชนหลายร้อยคนที่รวมตัวแออัดยัดเยียดกันบริเวณสระว่ายน้ำและบาร์แห่งหนึ่ง ณ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม โดยเพิกเฉยต่อมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ หลังวิดีโองานปาร์ตี้ดังกล่าวซึ่งจัดขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์
ปาร์ตี้บริเวณริมทะเลสาบโอซาร์คส เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดจากเจ้าหน้าที่เซนต์หลุยส์ เคาน์ตี ที่อยู่ใกล้เคียง ในขณะที่ผู้คนจำนวนมากเดินทางมายังทะเลสาบแห่งนี้เมื่อช่วงวันหยุดยาววันรำลึกทหารกล้า สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้มีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่โควิด-19
เจ้าหน้าที่บอกว่า ใครก็ตามที่ละเลยมาตรการป้องกันสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ควรกักกันโรคตนเองเป็นเวลา 14 วัน หรือจนกระทั่งมีผลการตรวจโรคเป็นลบ
สหรัฐฯ ได้เริ่มทยอยยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ภาพข่าวหนุ่มสาวสํามะเลเทเมาหลายร้อยคนแออัดกันอยู่ในสระว่ายน้ำในครั้งนี้ ได้โหมกระพือให้ผู้คนโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อนต่อยุทธศาสตร์ดังกล่าว
“พฤติกรรมที่ขาดความยั้งคิดนี้ก่ออันตรายแก่ประชาชนเหลือคณานับและเสี่ยงฉุดเราก้าวถอยกลับจากความคืบหน้าในความพยายามชะลอการแพร่ระบาดของโควิด-19” แซม เพจ ผู้บริหารของเซนต์หลุยส์ เคาน์ตีกล่าวเมื่อวันจันทร์ (25 พ.ค.) “ฝูงชนกลุ่มใหญ่ที่ทะเลสาบโอซาร์คส ไม่มีความพยายามที่จะปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมใดๆ เลย”
วันหยุดยาวของสหรัฐฯ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นของช่วงฤดูร้อน ได้พบเห็นปฏิกิริยาตอบสนองที่ผสมผสานต่อการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์บางส่วนในหลายรัฐ โดยชายหาดบางแห่งอัดแน่นไปด้วยผู้คน และพบเห็นประชาชนสวมหน้ากากแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น
สหรัฐฯ เป็นชาติที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 หนักหน่วงที่สุดในโลก และจนถึงตอนนี้มีผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 1.7 ล้านคน ในนั้นเสียชีวิตราวๆ 98,000 คน