เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ตัวเลขผู้เสียชีวิตโควิด-19 ทั่วโลกวันนี้ (26 พ.ค.) อยู่ที่ 346,632 คน ติดเชื้อรวม 5,515,109 คน สหรัฐฯเสียชีวิต 98,223 คน และติดเชื้อ 1,662,768 คน สถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังระอุ ฟิลิปปินส์เห็นยอดดับเพิ่ม 13 ราย ส่วนอินโดนีเซียอีก 27 ราย ด้านมาเลเซียมีผู้ติดเชื้อใหม่ 187 ราย สิงคโปร์ติดเชื้อเพิ่ม 383 คน ผู้นำ โรดริโก ดูเตอร์เต วันนี้ (26 พ.ค.) ประกาศคำขาดไม่อนุญาตให้นักเรียนกลับเข้าชั้นจนกว่าจะมีวัคซีนโควิด-19 ออกมาสำเร็จ สื่อนอกรายงานทีมวิจัยวัคซีนโควิด-19 จากไทยเริ่มต้นทดลองในลิง ตั้งเป้าเตรียมผลิตจำนวนมากส่งขายในราคาถูกสำหรับตลาดในไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แข่งกับบริษัทยาชื่อดังจากโลกตะวันตก ด้านบริษัทไบโอเทคสหรัฐฯ โนวาแว็กซ์ (Novavax) เริ่มทดสอบวัคซีนกับมนุษย์ครั้งแรกในออสเตรเลีย หลังได้รับทุนอุดหนุนมหาศาลจากผู้ก่อตั้ง บ.ไมโครซอฟต์ (บิล เกตส์)
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (26 พ.ค.) ว่า ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โรดริโก ดูเตอร์เต แถลงล่าสุดว่า เขาจะไม่อนุญาตให้นักเรียนฟิลิปปินส์ไปโรงเรียนจนกว่าจะมีการคิดค้นวัคซีนไวรัสโคโรนาสำเร็จ ถึงแม้ว่าจะมีบางประเทศเริ่มที่จะกลับมาเปิดชั้นเรียนอีกครั้ง
นักเรียนฟิลิปปินส์มีกำหนดที่จะต้องไปโรงเรียนอีกครั้ง หลังสิ้นเดือนสิงหาคมเกิดขึ้นหลังจากที่โรงเรียนสำหรับชั้นประถมและมัธยมที่มีนักเรียนไม่ต่ำกว่า 25 ล้านคน ต้องปิดลงไป เนื่องมาจากโรคระบาดในช่วงเดือนมีนาคม
แถลงการณ์ออกอากาศในช่วงค่ำวันจันทร์ (25) ดูเตอร์เต กล่าวว่า ภัยโรคโควิด-19 ระบาดยังรุนแรงมากถึงแม้ว่าจะต้องทำให้เด็กฟิลิปปินส์จะต้องถอยหลังทางการศึกษา “เว้นแต่ผมสามารถมั่นใจว่าคนเหล่านั้นจะปลอดภัยจริงๆ มันเป็นเรื่องเสียเวลาที่จะหารือในประเด็นการเปิดชั้นเรียน”
และดูเตอร์เต กล่าวต่อว่า “สำหรับผมแล้ววัคซีนต้องมาก่อน หากว่ามีวัคซีนเกิดขึ้นแล้ว และหลังจากนั้นสามารถโอเคได้” และเขาย้ำว่า “หากว่าไม่มีใครเลยสำเร็จการศึกษา ก็ให้มันเป็นเช่นนั้น”
รอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ แถลงในวันอังคาร (26) ว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มจากโควิด-19 อีก 13 ราย และมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 350 คน ถือเป็นการติดเชื้อมากที่สุดในรอบ 7 สัปดาห์
และกระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ตัวเลขติดเชื้อรวมทั้งประเทศอยู่ที่ 14,669 คน เสียชีวิต 886 คน หายป่วย 3,412 คน
ซึ่งขณะนี้ทั่วโลกกำลังแข่งขันการคิดค้นวัคซีนโควิด-19 หนังสือพิมพ์เซาท์มอร์นิงไชน่าโพสต์รายงานว่า ไทยตั้งเป้าที่จะผลิตวัคซีนโควิด-19 ราคาถูกสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ซึ่งไม่นานมานี้ นักวิจัยไทยจากมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ได้เริ่มต้นทดสอบวัคซีนโควิด-19 กับลิง และคาดว่า จะสามารถเริ่มทดสอบทางคลินิกวิทยากับคนไข้ได้ภายในปีนี้
สื่อฮ่องกงชี้ว่า ทางมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์คาดหวังที่จะให้มีการผลิตจำนวนมาก ที่สามารถได้รับการเข้าถึงจากทุกคนได้ในภูมิภาคและตอบโต้ต่อการขาดแคลนของทั่วโลก
โดยรัฐบาลไทยได้ออกมาประกาศในสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า มีการวางแผนที่จะให้วัคซีนโควิด-19 สำเร็จให้ได้ในปีหน้าเกิดขึ้นหลังผลการวิจัยในหนูทดลองประสบความสำเร็จด้วยดี
“พวกเราไม่ได้ตั้งเป้าหมายไปที่เงิน นี่ไม่ใช่เกี่ยวกับเงิน แต่เป็นการเข้าถึงสำหรับทุกคน” ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผู้อำนวยการพัฒนาวัคซีนไวรัสโคโรนาประจำมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ กล่าว
ไทยได้เริ่มต้นทดลองวัคซีนกับลิงมาตั้งแต่วันเสาร์ (23) ซึ่งสื่อนอกได้ชี้ว่า ถือเป็น 1 ใน 100 วัคซีนของโลกที่น่าจับตา
ทั้งนี้ พบว่า ทีมวิจัยของเขาได้เข้ามาเป็นพันธมิตรกับบริษัทยาไบโอเทคในทวีปอเมริกาเหนือ และมีความต้องการผลิตให้ได้จำนวนมากในประเทศไทย เพื่อให้ได้วัคซีนในราคาที่ย่อมเยาสำหรับตลาดภายในประเทศ และตลาดประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงเป็นต้นว่า อินโดนีเซีย มาเลเซีย ลาว เวียดนาม และ พม่า
โดยเขาแสดงความเห็นอย่างน่าสนใจว่า “หากว่าประเทศเพื่อนบ้านยังคงมีการติดเชื้ออยู่ในระดับสูง เราคงอยู่ได้ไม่นานในระยะยาว” พร้อมชี้ว่า “ดังนั้น ประเทศเช่นเราซึ่งเป็นประเทศเล็กจำเป็นต้องลุกขึ้นมาเพื่อทำเช่นกัน”
การออกมาความเห็นของหัวหน้าทีมพัฒนาวัคซีนของไทยเกิดขึ้นในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน ยังคงมีการติดเชื้อเพิ่มในระดับหลักร้อย อ้างอิงจากรอยเตอร์พบว่า อินโดนีเซีย เสียชีวิตเพิ่มภายใน 24 ชั่วโมง ที่ 27 ราย มีเคสใหม่ 415 ราย ส่งผลทำให้ตัวเลขติดเชื้อรวมอยู่ที่ 23,165 คน และเสียชีวิตรวม 23,165 คน ส่วนไทยมีผู้ติดเชื้อรวมวันนี้ (26) ที่ 3,045 คน เสียชีวิต 57 คน
ซึ่งในวันอังคาร (26) จาการ์ตาสั่งทหารและตำรวจรวมหลายแสนคนเพื่อบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากและทำการเว้นระยะห่างทางสังคม
โดยผู้บัญชาการกองทัพอินโดนีเซีย ฮาดี เตียห์จันโต (Hadi Tjahjanto) กล่าวยืนยันว่า นับตั้งแต่วันนี้ (26) เป็นต้นไป เจ้าหน้าที่จำนวน 340,000 นาย จะถูกส่งไปยัง 4 จังหวัดสำหรับการบังคับใช้
ส่วนที่มาเลเซียได้รายงานผู้ติดเชื้อใหม่ 187 คน แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่งผลทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อรวมที่ 7,604 คน และเสียชีวิต 115 คน
และสิงคโปร์ในวันอังคาร (26) กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ แถลงมีเคสติดเชื้อใหม่ 383 คน ส่งผลทำให้มีผู้ติดเชื้อรวม 32,343 คน
อ้างอิงตัวเลขจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ พบว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตโควิด-19 ทั่วโลกวันนี้ (26 พ.ค.) อยู่ที่ 346,632 คน ติดเชื้อรวม 5,515,109 คน สหรัฐฯเสียชีวิต 98,223 คน และติดเชื้อ 1,662,768 คน
การพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ของสหรัฐฯล่าสุด พบว่า บริษัท ไบโอเทคสหรัฐฯ โนวาแว็กซ์ (Novavax) เตรียมทดสอบวัคซีนกับมนุษย์ครั้งแรกในออสเตรเลีย หลังได้รับทุนอุดหนุนจากผู้ก่อตั้ง บ.ไมโครซอฟต์ (บิล เกตส์)
RT สื่อรัสเซียรายงานวันนี้ (26) ว่า โนวาแว็กซ์ที่มีฐานอยู่ในรัฐแมรีแลนด์ได้เริ่มต้นการทดสอบกับผู้ป่วยจำนวน 130 คน ซึ่งเป็นอาสาสมัครชาวออสเตรเลียที่เมืองเมลเบิร์นและบริสเบน โดยตั้งความหวังที่จะเห็นผลการทดสอบได้เร็วสุดในช่วงต้นกรกฎาคมก่อนก่อนจะเริ่มในเฟส 2 ต่อไป
ประธานบริษัทยาโนวาแว็กซ์ Stanley Erck ออกแถลงการณ์ในคืนวันจันทร์ (25) ว่า “ได้มีการจัดทดลองวัคซีนของเรากับกลุ่มคนไข้ในการวิจัยทางคลินิกครั้งแรกนั้นถือเป็นก้าวสำคัญของความสำเร็จ ทำให้พวกเราก้าวเข้าใกล้กับการตอบสนองต่อความต้องการขั้นพื้นฐานสำหรับวัคซีนในการต่อสู้โรคโควิด-19 ที่ระบาดทั่วโลก”
การวิจัยได้เริ่มหลังจาได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 388 ล้านจากองค์กรการกุศลเพื่อสาธารณะด้านสุขภาพ Coalition for Epidemic Preparedness Innovations หรือ CEPI ที่ก่อตั้งโดย บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟต์ ซึ่งถือเป็นเงินบริจาคก้อนใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา