xs
xsm
sm
md
lg

น้ำมันขึ้น-ทองดิ่ง $30 หุ้นมะกันปิดลบ กังวลสหรัฐฯ ใกล้ผ่าน กม.ควบคุมบริษัทจีนจดทะเบียนในวอลล์สตรีท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นต่อเนื่องในวันพฤหัสบดี (21 พ.ค.) ได้แรงหนุนจากอุปสงค์ส่งสัญญาณฟื้นตัว หลังรัฐบาลประเทศต่างๆ ผ่อนคลายล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ขณะที่ทองคำดิ่งลงหนักกว่า 30 ดอลลาร์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 43 เซ็นต์ ปิดที่ 33.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 31 เซ็นต์ ปิดที่ 36.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากสัญญาณภาวะอุปทานล้นตลาดกำลังคลี่คลาย หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ (อีไอเอ) รายงานในวันพุธ (20พ.ค.) ว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯ ลดลง 5 ล้าบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 มีนาคม สวนทางกับที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะเพิ่มขึ้น

ในขณะเดียวกันก็พบหลักฐานของการฟื้นตัวของการบริโภคพลังงาน เมื่อประชากรโลกเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง หลังรัฐบาลหลายชาติทยอยกันผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

ยกตัวอย่างเช่น กรณีบรรดาสายการบินชั้นนำของสหรัฐฯ และแอร์แคนาดา เมื่อวันอังคาร (19 พ.ค.) รายงานอัตราผู้โดยสารยกเลิกจองตั๋วเดินทางชะลอตัวลง แถมยังมีการจองตั๋วมากขึ้นในบางเส้นทาง แม้เหล่าผู้บริหารจะยอมรับว่าอุปสงค์โดยรวมยังคงอ่อนแอก็ตาม

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในแดนลบวันพฤหัสบดี (21 พ.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน นักลงทุนกังวลสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหัฐฯ และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานที่พุ่งขึ้นอีกสัปดาห์

ดาวโจนส์ ลดลง 101.78 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,474.12 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 23.10 จุด (0.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,948.51 จุด แนสแดค ลดลง 90.90 จุด (0.97 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,284.88 จุด

วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ในการอนุมัติร่างกฎหมายซึ่งอาจทำให้บริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกถอดออกจากตลาด นอกจากนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวยังอาจทำให้บริษัทจีนจำนวนมากไม่สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ หรือระดมเงินทุนจากนักลงทุนชาวอเมริกันได้ในอนาคต

ข่าวดังกล่าวทำให้บริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท เช่น อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง, ไป่ตู้ อิงค์ และเจดีดอตคอม ต่างดิ่งลง เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะถูกถอดออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ หากร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ

ร่างกฎหมายที่เสนอโดยนายจอห์น เคนเนดี วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน กำหนดให้บริษัทต่างชาติที่ต้องการจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯต้องรับรองให้ได้ว่าไม่ได้ถูกควบคุมหรือบริหารโดยรัฐบาลต่างชาติ และหากผู้ตรวจสอบของสหรัฐฯ ไม่สามารถตรวจสอบบัญชีของบริษัทเหล่านั้นได้เป็นเวลาสามปีติดต่อกัน บริษัทดังกล่าวจะถูกห้ามซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์

อย่างไรก็ตาม แม้กฎหมายใหม่นี้จะมีผลบังคับกับบริษัทต่างชาติทุกแห่งที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่ก็ถูกมองว่ามุ่งเป้าไปที่บริษัทจีน และเป็นความพยายามของรัฐสภาอเมริกันที่ต้องการจำกัดการลงทุนของจีนในสหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน วอลล์สตรีทยังถูกฉูดจากข้อมูลกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 2.44 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.40 ล้านราย

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวบ่งชี้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ทำให้ชาวอเมริกันตกงานสูงถึง 38.6 ล้านรายนับตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่มีการรายงานในวันพฤหัสบดี (21 พ.ค.) ถือว่าต่ำที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าว และเป็นการชะลอตัวติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 7 นับตั้งแต่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 6.9 ล้านรายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 มีนาคม

แม้ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานยังสูงลิ่ว แต่ราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำกลับปิดลบหนักในวันพฤหัสบดี (21 พ.ค.) ด้วยนักลงทุนเล็งเห็นสัญญาณการฟื้นตัวในข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 30.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,721.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์


กำลังโหลดความคิดเห็น