มาร์เก็ตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันในวันศุกร์ (8 พ.ค.) พุ่งแรง ได้ปัจจัยหนุนจากหลักฐานอุปสงค์ในจีนฟื้นคืน ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกต่อเนื่อง จากความเคลื่อนไหวผ่อนปรนล็อกดาวน์ในสหรัฐฯและยุโรป ปัจจัยนี้ฉุดทองคำร่วงหนัก แม้พบข้อมูลการจ้างงานดิ่งลงถึง 20.5 ล้านตำแหน่ง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.19 ดอลลาร์ ปิดที่ 24.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.51 ดอลลาร์ ปิดที่ 30.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากข้อมูลนำเข้าน้ำมันดิบเมื่อเดือนที่แล้วของจีน ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (7 พ.ค.) โดยพบว่ามีการนำเข้าน้ำมันเพิ่มเป็น 10.42 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนเมษายน จากระดับ 9.68 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมีนาคม
ข้อมูลนี้สำนักข่าวรอยเตอร์คำนวณจากตัวเลขศุลกากรในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2020 ขณะที่ตัวเลขนำเข้าโดยรวมชองจีนก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน สวนทางกับที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะลดลงอย่างมาก
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯพุ่งทะยานในวันศุกร์ (8 พ.ค.) จากมุมมองแง่บวกเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และกลับมาเปิดเศรษฐกิจในอเมริกาและยุโรป ซึ่งช่วยบรรเทากระแสความกังวลว่าโลกอาจมุ่งหน้าสู่ภาวะถดถอยครั้งเลวร้าย
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 455.43 จุด (1.91 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,331.32 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 48.61 จุด (1.69 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,929.80 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 141.66 จุด (1.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,121.32 จุด
ในความเคลื่อนไหวล่าสุด นักลงทุนไม่รู้สึกตื่นตระหนก หลังข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆ แม้ออกมาแย่ แต่ก็ไม่แตกต่างจากที่คาดหมายไว้ ขณะเดียวกัน ก็หันไปเพ่งเล็งกับข้อมูลแง่บวกต่างๆ อย่างเช่น การกลับมาเดินเครื่องเศรษฐกิจอีกครั้งในบางพื้นที่ของสหรัฐฯและยุโรป
วอลล์สตรีทปิดบวก แม้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรดิ่งลง 20.5 ล้านตำแหน่งในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นตัวเลขการจ้างงานที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา เนื่องจากขณะเดียวกันมันก็ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 21.5 ล้านตำแหน่ง
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯรายงานด้วยว่า อัตราการว่างงานพุ่งขึ้นสู่ระดับ 14.7% ในเดือนที่แล้ว สูงกว่าอัตราการว่างงานระดับ 10.8% ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ก็ยังต่ำกว่าระดับ 24.9% เมื่อครั้งต้องเผชิญช่วงเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่
นักลงทุนยังคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน หลังจากเจ้าหน้าที่ด้านการค้าระหว่างสองประเทศยืนยันความร่วมมือในการส่งเสริมเศรษฐกิจมหาภาค เพื่อเอื้ออำนวยต่อการดำเนินการตามข้อตกลงการค้าเฟสแรก
ความเคลื่อนไหวของตลาดทุน ผลักนักลงทุนเมินสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและฉุดราคาทองคำในวันศุกร์ (8 พ.ค.) ปิดลบแรง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 11.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,713.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์