เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีมิคาอิล มิชูสติน แห่งรัสเซีย กลับมาปฏิบัติหน้าที่แล้วในวันอังคาร(19พ.ค.) หลังหายป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ในขณะที่เจ้าหน้าที่บอกว่าวิกฤตกำลังคลี่คลาย แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมขยับเข้าใกล้ 300,000 คนแล้ว
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ลงนามในคำสั่งคืนสถานะหัวหน้ารัฐบาลแก่ มิชูสติน เกือบ 3 สัปดาห์หลังจากนายกรัฐมนตรีรายนี้แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ว่าเขามีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ออกมาเป็นบวก
มิชูสติน เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยตนเองและ อังเดร เบลูซอฟ รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 เข้ามารักษาการแทน อย่างไรก็ตามเขายังคงมีส่วนร่วมในการประชุมต่างๆผ่านวิดีโอลิงค์
อดีตอธิบดีกรมสรรพากรวัย 54 ปีที่แทบไม่มีใครรู้จัก ได้รับการแต่งตั้งขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างน่าประหลาดใจในการปรับคณะรัฐมนตรีเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่เขามีเวลาเพียงเล็กน้อยในการสร้างผลงาน สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หลังกลับมาปฏิบัติหน้าที่อย่างสมบูรณ์ มิชูสติน ปรากฏตัวร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆในการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับประธานาธิบดีปูติน และปูตินใช้โอกาสนี้แสดงความยินดีกับเขาที่เอาชนะไวรัสได้
การคืนสู่สถานะนายกรัฐมนตรีของมิชูสติน มีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรัสเซีย 9,263 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 299,941 คน สูงสุดอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ
เขาเป็น 1 ในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียหลายคนที่ติดเชื้อในนั้นรวมถึงรัฐมนตรีวัฒนธรรม, รัฐมนตรีการศึกษาและก่อสร้าง เช่นเดียวกับ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกส่วนตัวของปูติน
ตัวเลขในวันอังคาร(19พ.ค.) พบเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ลดต่ำกว่า 10,000 คนเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่เมื่อวันจันทร์(18พ.ค.) ซึ่งพบผู้ติดเชื้อ 8,926 คน ถือเป็นการพบผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 9,000 คนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มเข้าสู่เดือนพฤษภาคม
ปูติน เน้นย้ำว่าวิกฤตในรัสเซียกำลังคลี่คลาย โดยบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า "ในช่วง 2 หรือ 3 วันที่ผ่านมา แม้แต่เมื่อวานนี้ สถานการณ์กำลังเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ต้องการ เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง"
เจ้าหน้าที่ยกเครดิตให้กับมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศและการตรวจโรคอย่างกว้างขวางในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา สำหรับอัตราการติดเชื้อที่ชะลอตัวลง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เครมลินได้ผ่อนปรนมาตรการต่างๆทั่วประเทศที่กำหนดบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมีนาคม และพื้นที่ต่างๆเริ่มยกเลิกคำสั่งล็อกดาวน์แบบค่อยเป็นค่อยไป
อย่างไรก็ตามในส่วนของกรุงมอสโก ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่พบในเมืองหลวงแห่งนี้ ยังคงอยู่ในมาตรการล็อกดาวน์อันเข้มงวดต่อไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม โดยชาวบ้านได้รับอนุญาตให้ออกจากที่พักอาศัยในระยะทางใกล้ๆ เพื่อไปร้านค้า, จูงสุนัขเดินเล่นหรือเดินทางไปทำงานที่มีความจำเป็นพร้อมกับใบอนุญาต
จำนวนผู้เสียชีวิตในรัสเซีย ถือว่าต่ำกว่าประเทศอื่นๆที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมพอๆกันอย่างมาก ด้วยจนถึงวันอังคาร(19พ.ค.) ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่แค่ 2,837 คน กระตุ้นให้ฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์กล่าวหาเจ้าหน้าที่รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อลดระดับวิกฤตการแพร่ระบาดในรัสเซีย
พวกเจ้าหน้าที่โต้แย้งว่าพวกเขานับเฉพาะผู้เสียชีวิตโดยตรงจากไวรัส ต่างจากประเทศอื่นๆที่นับการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อในทุกกรณี แม้ว่าบางทีโควิด-19 อาจไม่ใช่ต้นตอของการเสียชีวิต และบอกว่ารัสเซียสามารถเตรียมพร้อมรับมือกับโรคระบาดใหญ่ได้ดีกว่า เนื่องจากมันแพร่ระบาดเข้ามายังรัสเซียช้ากว่าประเทศอื่นๆ