มาร์เกตวอตช์/เอเอฟพี - วอลล์สตรีทในวันจันทร์ (18 พ.ค.) พุ่งแรง โดยดาวโจนส์บวกกว่า 900 จุด จากรายงานข่าวในแง่บวกเกี่ยวกับการทดลองทางคลิกนิกวัคซีนรักษาไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ตัวหนึ่ง ปัจจัยนี้ฉุดทองคำร่วงหนัก แต่ดันราคาน้ำมันทะยานกว่า 2 ดอลลาร์
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 911.95 จุด (3.85 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,597.37 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 90.21 จุด (3.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,953.91 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 220.27 จุด (2.44 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,234.83 จุด
นักลงทุนขานรับอย่างคึกคักต่อพัฒนาการในด้านบวกเกี่ยวกับการทดลองทางคลินิกรักษาโควิด-19 ของบริษัทยาต่างๆ ท่ามกลางความกังวลต่อการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 อันสืบเนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
ราคาหุ้นของบริษัท Moderna Inc ซึ่งเป็นบริษัทในธุรกิจไบโอเทคของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 26% หลังจากแถลงว่า ผลการทดลองทางคลินิกในการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ได้ทำให้ร่างกายของอาสาสมัครผลิตแอนติบอดีซึ่งสามารถกำจัดเชื้อไวรัสในผู้ป่วยโควิด-19
ผลการศึกษาที่ดำเนินการโดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) พบว่า ระดับของแอนติบอดีดังกล่าวเท่ากับในตัวอย่างเลือดของผู้ป่วยที่ฟื้นตัวจากไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่
Moderna ระบุว่า วัคซีนดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า mRNA-1273 มีความปลอดภัย และตอบสนองได้ดีในการทดลองในช่วงแรก และจะเริ่มการทดลองในขั้นต่อไปในเดือนกรกฎาคม
ดอกเตอร์ ทาล แซ็กส์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่แพทย์ของบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ “โมเดอร์นา” ระบุว่า ผลการทดลองวัคซีนโควิด-19 ที่ โมเดอร์นา พัฒนาร่วมกับสถาบันสุขภาพแห่งชาติ เบื้องต้นชี้ว่าผู้ที่รับวัคซีนสร้างสารภูมิคุ้มกัน หรือแอนติบอดี สำหรับต้านไวรัสชนิดนี้ขึ้นมา
“นี่เป็นข่าวดีอย่างยิ่ง และเป็นข่าวที่เราคิดว่าหลายๆ คนรอคอยมานานแล้ว” ดร.แซ็กส์กล่าว และเผยด้วยว่า หากการศึกษาทดลองในอนาคตเป็นไปได้ด้วยดี วัคซีนของบริษัทอาจพร้อมจำหน่ายสู่สังคมอย่างเร็วที่สุดในเดือนมกราคม 2021
ข้อมูลดังกล่าวมาจากการทดลองทางคลินิก เฟสที่ 1 ซึ่งทำการศึกษาในกลุ่มคนจำนวนน้อย และมุ่งเน้นไปที่การหาผลลัพธ์ว่า วัคซีนปลอดภัยและทำให้ภูมิคุ้นกันตอบสนองหรือไม่ โดยเป็นผลการวิจัยในเบื้องต้นที่ยังไม่ผ่านการพิจารณาในเชิงวิชาการหรือตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ใดๆ
ในการทดลองนี้ โมเดอร์นาให้วัคซีนแก่ผู้เข้าร่วมดารทดลองหลายสิบคน และวัดปริมาณสารภูมิต้านทานในร่างกาย ของผู้เข้าร่วม 8 คน พบว่า ทั้งหมดสร้างสารภูมิต้านทานชนิด ‘Neutralizing antibody’ (NA) สำหรับดักจับไวรัสตัวนี้ในระดับเท่า หรือมากกว่าระดับซึ่งพบในคนที่หายจากการติดเชื้อโควิด-19 ตามธรรมชาติ
“เราแสดงให้เห็นแล้วว่า แอนติบอดีเหล่านี้ การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันเหล่านี้ สามารถป้องกันไวรัสตัวนี้ได้จริง” ดร.แซ็คส์กล่าว “ผมคิดว่านี่เป็นก้าวแรกที่สำคัญมากในการเดินทางการสร้างวัคซีนของเรา”
วัคซีนของ Moderna คือหนึ่งในกว่าร้อยวัคซีนที่อยู่ระหว่างการพัฒนา มีเจตนาสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องมนุษย์จากไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ในขณะที่โควิด-19 ได้แพร่เชื้อติดผู้คนไปแล้วมากกว่า 4.7 ล้านราย และเข่นฆ่าชีวิตไปแล้วกว่า 315,000 คน
ความเคลื่อนไหวของตลาดทุน ผลักนักลงทุนเมินทองคำในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และฉุดราคาทองคำในวันจันทร์ (18 พ.ค.) ดิ่งลงหนัก โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 21.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,734.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านราคาน้ำมันในวันจันทร์ (18 พ.ค.) พุ่งทะยาน แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน ได้ปัจจัยหนุนจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 และมุมมองทางบวกเกี่ยวกับการฟิ้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 2.39 ดอลลาร์ ปิดที่ 31.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนงวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 2.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 31.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 2.31 ดอลลาร์ ปิดที่ 34.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จีนเผยว่าปริมาณการนำน้ำมันดิบเข้ากลั่นรายวันในเดือนเมษายน ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนในเดือนมีนาคม หลังจากโรงกลั่นต่างๆ ได้ยกระดับปฏิบัติการเพื่อให้สอดคล้องกับอุปสงค์ทางพลังงานที่ฟื้นคืน หลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19
สภาพอากาศที่อบอุ่นกระตุ้นให้ประชาชนในหลายประเทศทั่วโลกโผล่ออกมาจากมาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ในขณะที่ศูนย์กลางการแพร่ระบาดต่างๆ เช่น นิวยอร์ก, อิตาลี และสเปน ค่อยๆ ยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังบังคับผู้คนหลายล้านคนอยู่แต่ในที่พักอาศัยมานานหลายเดือน ส่งสัญญาณว่าอุปสงค์พลังงานโลกกำลังฟื้นคืน