xs
xsm
sm
md
lg

น้ำมันลง-ทองพุ่ง ดาวโจนส์ร่วง 510 จุด เฟดกังวลโควิด-19 ทุบ ศก.สหรัฐฯ หนักหน่วง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มาร์เกตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันปรับลดในวันพุธ (13 พ.ค.) แม้คลังปิโตรเลียมสำรองรายสัปดาห์สหรัฐฯ ลดลง ส่วนวอลล์สตรีทดิ่งหนักและทองคำพุ่งแรง หลังธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) เน้นย้ำถึงความเสี่ยงต่างๆ ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ต้องเผชิญจากมาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 49 เซ็นต์ ปิดที่ 25.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 79 เซ็นต์ ปิดที่ 29.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ (อีไอเอ) รายงานในวันพุธ (13 พ.ค.) ว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศลดลง 700,000 บาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 พฤษภาคม ถือว่าเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 16 สัปดาห์ และสวนทางกับที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 4.8 ล้านบาร์เรล

ก่อนหน้านี้ ตลาดน้ำมันดีดตัวขึ้นต่อเนื่องมาหลายวัน จากมุมมองแง่บวกเกี่ยวกับอุปสงค์ฟื้นคืน และบรรดาชาติผู้ผลิตปรับลดกำลังผลิตเพิ่มเติมในความพยายามบรรเทาภาวะอุปทานล้นความต้องการสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

อย่างไรก็ตามร าคาน้ำมันในวันพุธ (13 พ.ค.) ถูกฉุดดิ่งสู่แดนลบ หลังจากรัฐบาลชาติต่างๆ ส่งสัญญาณว่าอาจต้องใช้เวลาอีกนานกว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะฟื้นคืน ซึ่งปัจจัยนี้เองผลักให้ราคาทองคำ ในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำพุ่งขึ้นแรง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 9.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,716.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบหนักในวันพุธ (13 พ.ค.) โดยดาวโจนส์ร่วงอีกกว่า 510 จุด หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ตอกย้ำถึงความเสี่ยงที่เศรษฐกิจอเมริกาต้องเผชิญ จากมาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19

ดาวโจนส์ ลดลง 516.81 จุด (2.17 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 23,247.97 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 50.12 จุด (1.75 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,820.00 จุด แนสแดค ลดลง 139.38 จุด (1.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,863.17 จุด

เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด เตือนว่าแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความไม่แน่นอนสูงลิ่ว และบอกว่าบางทีวอชิงตันอาจจำเป็นต้องอาจใช้เงินมากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสแล้วในการพยุงเศรษฐกิจ

“การสนับสนุนทางการคลังเพิ่มเติมอาจสูงลิ่ว แต่มีค่าพอหากว่ามันช่วยหลีกเลี่ยงความเสียหายทางเศรษฐกิจในระยะยาว และช่วยเปิดทางให้เราฟื้นตัวแข็งแกร่งกว่าเดิม” พาวเวลล์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น