รอยเตอร์ - กลุ่มติดอาวุธซึ่งแต่งกายคล้ายตำรวจบุกกราดยิงแม่และทารกแรกคลอดเสียชีวิต 16 ราย ที่แผนกสูติกรรมของโรงพยาบาลในกรุงคาบูล ซึ่งบริหารงานโดยองค์กรแพทย์ไร้พรมแดน (MSF) เมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) และในวันเดียวกันยังเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีงานศพผู้บัญชาการตำรวจที่จังหวัดนันกาฮาร์ (Nangahar) ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รัฐบาลและสมาชิกรัฐสภาคนหนึ่งไปร่วมงาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 24 ราย บาดเจ็บอีก 68 ราย
SITE ซึ่งเป็นองค์กรที่ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้าย ระบุว่า กลุ่มรัฐอิสลามโคราซาน (Islamic State Khorasan) ซึ่งเป็นเครือข่ายของไอเอสในอัฟกานิสถานได้ออกมาอ้างผลงานสำหรับเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่นันกาฮาร์ ส่วนปฏิบัติการโจมตีโรงพยาบาลคาบูลนั้นยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบ
ตอลิบานซึ่งเป็นกลุ่มอิสลามิสต์รายใหญ่ที่ก่อความไม่สงบในอัฟกานิสถานปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีทั้ง 2 จุด โดยยืนยันว่า ได้ยุติการโจมตีเมืองใหญ่ๆ แล้วตามเงื่อนไขข้อตกลงที่ทำร่วมกับสหรัฐฯ
เหตุยิงถล่มโรงพยาบาลเกิดขึ้นในช่วงเช้าวานนี้ (12) โดยมีมือปืนอย่างน้อย 3 คน สวมเครื่องแบบคล้ายตำรวจบุกเข้าไปที่โรงพยาบาล ดัชต์-อี-บาร์ชี จากนั้นก็เริ่มขว้างปาระเบิดมือและกราดยิงใส่ผู้คนแบบไม่เลือกหน้า ก่อนที่หน่วยความมั่นคงจะวิสามัญฯ คนร้ายทั้งหมดได้ในช่วงบ่าย
“คนร้ายยิงใส่ผู้คนในโรงพยาบาลอย่างไร้เหตุผล ที่นี่เป็นโรงพยาบาลของรัฐ จึงมีประชาชนพาภรรยาและลูกมารับการรักษาเป็นจำนวนมาก” รามาซาน อาลี พ่อค้าที่ขายของอยู่ใกล้ๆ โรงพยาบาลขณะเกิดเหตุ ระบุ
โรงพยาบาลขนาด 100 เตียงแห่งนี้ มีแผนกแม่และเด็กที่บริหารงานโดยองค์กรแพทย์ไร้พรมแดน หรือ MSF
เหตุรุนแรงซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่อัฟกานิสถานกำลังเผชิญการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เสี่ยงที่จะบ่อนทำลายกระบวนการจัดทำข้อตกลงสันติภาพระหว่างตอลิบานกับรัฐบาลอัฟกัน ซึ่งยังคงระแวงสงสัยว่ากลุ่มติดอาวุธได้หยุดปฏิบัติการโจมตีแล้วจริงหรือไม่
กระทรวงมหาดไทยอัฟกันได้เผยภาพเด็กเล็ก 2 คน นอนเสียชีวิตอยู่ภายในโรงพยาบาล และภาพมารดาคนหนึ่งซึ่งถูกคนร้ายสังหารทั้งที่ยังกอดลูกเอาไว้แน่น ซึ่งเคราะห์ดีที่ลูกของเธอรอดชีวิต และได้ถูกย้ายไปยังหอผู้ป่วยหนักของโรงพยาบาลแล้ว
ประธานาธิบดี อัชราฟ กานี แห่งอัฟกานิสถาน ได้กล่าวประณามเหตุสังหารหมู่ทั้ง 2 จุด และสั่งให้กองทัพเปลี่ยนมาใช้ปฏิบัติการเชิงรุกให้มากยิ่งขึ้น หลังจากที่เน้นการป้องกันเพื่อสนับสนุนกระบวนการสันติภาพที่มีสหรัฐฯ เป็นคนกลาง
ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ได้มีถ้อยแถลงประณาม “การโจมตีก่อการร้ายที่โหดเหี้ยมทั้ง 2 เหตุการณ์” พร้อมย้ำว่าตอลิบานได้ออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบแล้ว ขณะเดียวกัน ก็ย้ำว่า การปราศจากข้อตกลงสันติภาพทำให้อัฟกานิสถานสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดเหตุโจมตีเช่นนี้ต่อไป