รอยเตอร์ - อินเดียในวันศุกร์ (1 พ.ค.) เปิดเผยว่า จะขยายมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศออกไปอีก 2 สัปดาห์ หลังคำสั่งเดิมจะหมดอายุลงในวันที่ 4 พฤษภาคม แต่จะผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ ลงอย่างมากในเขตต่างๆ ที่มีความเสี่ยงต่ำเช่นโซนสีเขียวและโซนสีส้ม
อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทย ระบุในถ้อยแถลงว่า กิจกรรมบางอย่างจะยังคงถูกห้ามทั่วประเทศ โดยไม่สนว่าจะถูกจัดอยู่ในโซนใด ในนั้นรวมถึงการสัญจรทางอากาศ, การเดินรถไฟและรถไฟฟ้าใต้ดิน เช่นเดียวกับการสัญจรข้ามรัฐของประชาชนบนท้องถนน
นอกจากนี้แล้ว โรงเรียน, วิทยาลัย, โรงแรม, ร้านอาหาร, ห้างสรรพสินค้า, โรงภาพยนตร์และสถานที่แสวงบุญต่างๆ จะยังต้องปิดทำการต่อไป
กระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า เพิ่มเติมว่าจะไม่มีการจำกัดความเคลื่อนไหวด้านขนส่งสินค้าระหว่างรัฐ เช่นเดียวกับด้านการผลิตและจัดส่งสินค้าที่จำเป็น
เจ้าหน้าที่บอกว่ากำลังพยายามจัดเรียงลำดับความสำคัญของการออกจากมาตรการล็อกดาวน์ ที่นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี บังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ซึ่งพวกเขายกความดีความชอบแก่มาตรการนี้ที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดระลอกคลื่นของจำนวนผู้ติดเชื้อ
ทางการได้จัดแบ่งพื้นที่ของประเทศเป็นสีแดง, สีส้ม และ สีเขียว ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการแพร่ระบาด ซึ่งเมืองใหญ่ๆ และเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจมากที่สุด ในนั้นรวมถึงนิวเดลี, มุมไบ, เบนกาลูรู, เชนไน และ อาห์เมดาบัด ล้วนแต่ถูกจัดอยู่ในโซนสีแดง จุดร้อนของการแพร่ระบาด ทำให้เมืองเหล่านี้ต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์อันเข้มข้นต่อไป
ทั้งนี้ เพื่อที่จะได้อยู่ในโซนสีเขียว ซึ่งง่ายต่อการยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ พื้นที่นั้นๆ จำเป็นต้องไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเวลา 3 สัปดาห์
จนถึงวันศุกร์ (1 พ.ค.) อินเดีย พบผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยัน 35,043 คน ในนั้นเสียชีวิต 1,154 คน แต่ขอบเขตผู้ติดเชื้อที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มากในประเทศที่ประชาชนหลายล้านคนเข้าไม่ถึงระบบสาธารณสุข
มาตรการล็อกดาวน์ได้ก่อความเสียหายแก่เศรษฐกิจอินเดียอย่างรุนแรง ทำแรงงานหลายล้านคนสูญเสียรายได้ และแรงงานจากชนบทจำนวนมากตกค้างอยู่ตามเมืองต่างๆ ในขณะที่พวกเขาแทบไม่เหลือเงินมาจ่ายค่าเช่าห้องหรือซื้ออาหารมาประทังชีวิต