รอยเตอร์ - อิหร่านจะทำลายเรือรบสหรัฐฯ ถ้าความมั่นคงปลอดภัยของตนในอ่าวเปอร์เซียถูกคุกคาม ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านประกาศทางสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐวันพฤหัสบดี (23 เม.ย.) หนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ระบุ ได้สั่งให้กองทัพอเมริกัน ยิงโจมตีเรือของอิหร่านได้ทันที หากถูกอีกฝ่ายเข้ามาก่อกวนในทะเล
“ผมเพิ่งออกคำสั่งแก่กองกำลังนาวีของเราว่า ให้ทำลายกองกำลังก่อการร้ายใดๆ ก็ตามของอเมริกันในอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งคุกคามความมั่นคงปลอดภัยของเรืออิหร่านทั้งที่เป็นเรือทหารและไม่ใช่เรือทหาร” พลตรี ฮอสเซน ซาลามี กล่าว พร้อมย้ำว่า “ความมั่นคงของอ่าวเปอร์เซีย คือส่วนหนึ่งของความสำคัญทางยุทธศาสตร์ลำดับต้นๆ ของอิหร่าน”
ทรัมป์นั้นทวิตข้อความในวันพุธว่า ได้สั่งให้กองทัพเรือสหรัฐฯ ยิงทำลายเรือปืนทุกชนิดของอิหร่านได้ทันที ถ้าพวกเขาพยายามคุกคามเรือของเราในทะเล ถึงแม้เขาออกมาพูดอีกในเวลาต่อมาว่า เขาไม่ได้กำลังสั่งเปลี่ยนแปลงกฎการปะทะของกองทัพสหรัฐฯแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ในเดือนนี้ กองทัพสหรัฐฯระบุว่า มีเรือขนาดเล็ก 11 ลำของกองกำลังนาวีแห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านได้แล่นเข้าใกล้เรือของกองทัพเรือสหรัฐฯและของหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ พร้อมกับเรียกความเคลื่อนไหวเช่นนี้ว่า “อันตรายและมุ่งยั่วยุ” โดยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เรืออิหร่านพุ่งเข้าประชิดเรือรบแบบ “คัตเตอร์” ชื่อ “เมาอี” ของหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ ในระยะห่างเพียง 9 เมตร
ย้อนหลังกลับไปไกลกว่านั้น ในช่วงปี 2016-2017 การเผชิญหน้าในระยะใกล้ระหว่างเรือของสหรัฐฯ กับอิหร่านในอ่าวเปอร์เซียเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ และหลายครั้งที่เรือรบสหรัฐฯ ยิงกระสุนเตือนไม่ให้เรืออิหร่านแล่นเข้ามาใกล้มากเกินไป
ทางด้านเตหะรานนั้น ได้ประณามวอชิงตันผู้เป็นศัตรูของตนมายาวนานว่าเป็นผู้ก่อเหตุเช่นนี้ขึ้นมา ในวันพฤหัสบดี (23) กระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ได้เรียกเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำเตหะราน ซึ่งเป็นตัวแทนดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯในอิหร่าน มาพบเพื่อส่งข้อความผ่านไปยังวอชิงตัน เกี่ยวกับความตึงเครียดเมื่อเร็วๆ นี้ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ
สำหรับ พลตรี ซาลามี เขาบอกว่า “ผมบอกกล่าวให้คนอเมริกันรู้เอาไว้ว่า เรามีความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวอย่างที่สุด และเอาจริงเอาจังในการปกป้องความมั่นคงแห่งชาติของเรา, พรมแดนน่านน้ำของเรา, ความปลอดภัยในการเดินเรือของเรา, และกองกำลังรักษาความมั่นคงของเรา และเราจะตอบโต้อย่างเด็ดขาดกับการบ่อนทำลายใดๆ ก็ตามที”
“อเมริกันมีประสบการณ์เจอกับพลังอำนาจของเรามาแล้วในอดีต และจะต้องเรียนรู้จากประสบการณ์เหล่านั้น”
ขณะเดียวกัน คำขู่ของทรัมป์ยัง มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติแห่งอิหร่าน ประกาศว่าได้ยิง ‘ดาวเทียมทหาร’ ดวงแรกของประเทศขึ้นสู่วงโคจร
แม้กองทัพเรือสหรัฐฯ จะมีอำนาจตัดสินใจโจมตีเพื่อป้องกันตนเองอยู่แล้ว แต่การได้ไฟเขียวจาก ทรัมป์ สำทับไปอีกชั้นหนึ่งคาดว่าจะยิ่งกระพือความตึงเครียดระหว่างทั้ง 2 ชาติ
ระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อค่ำวานนี้ (22 เม.ย.) ทรัมป์ ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนกฎการปะทะของกองทัพแต่อย่างใด ขณะที่ เดวิด นอร์ควิสต์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็อธิบายว่า คำขู่ของ ทรัมป์ มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องปรามอิหร่าน และกองทัพเรือจะยังคงปฏิบัติตามสิทธิ์ในการป้องกันตนเองโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงกฎ
ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ทวีความรุนแรงขึ้นในปีนี้ หลังสหรัฐฯ ส่งโดรนไปลอบสังหารพลตรี กาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ (Quds) แห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ระหว่างเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในอิรัก
อิหร่านลงมือแก้แค้นในวันที่ 8 ม.ค. ด้วยการยิงถล่มฐานทัพ อัยน์ อัล-อาซาด ในอิรักซึ่งมีทหารอเมริกันประจำการอยู่ และแม้สหรัฐฯ จะไม่สูญเสียกำลังพลจากเหตุการณ์นี้ แต่ก็มีทหารกว่า 100 นายที่บาดเจ็บทางสมอง