รอยเตอร์ – ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (22 เม.ย.) ว่าตนได้สั่งให้กองทัพเรือสหรัฐฯ ยิงโจมตีเรือของอิหร่านได้ทันทีหากถูกอีกฝ่ายเข้ามาก่อกวนในทะเล พร้อมย้ำว่าตนไม่ได้กำลังเปลี่ยนแปลงกฎการปะทะ (rules of engagement) ของกองทัพแต่อย่างใด
การเผชิญหน้าในระยะใกล้ระหว่างเรือของสหรัฐฯ กับอิหร่านเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ในช่วงปี 2016-2017 และหลายครั้งที่เรือรบสหรัฐฯ ต้องยิงกระสุนเตือนไม่ให้เรืออิหร่านแล่นเข้ามาใกล้มากเกินไป
“ผมสั่งให้กองทัพเรือสหรัฐฯ ยิงทำลายเรือปืนทุกชนิดของอิหร่านได้ทันที ถ้าพวกเขาพยายามคุกคามเรือของเราในทะเล” ทรัมป์ ทวีตข้อความ
คำขู่ของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติแห่งอิหร่าน (IRGC) ประกาศว่าได้ยิง ‘ดาวเทียมทหาร’ ดวงแรกของประเทศขึ้นสู่วงโคจร
แม้กองทัพเรือสหรัฐฯ จะมีอำนาจตัดสินใจโจมตีเพื่อป้องกันตนเองอยู่แล้ว แต่การได้ไฟเขียวจาก ทรัมป์ สำทับไปอีกชั้นหนึ่งคาดว่าจะยิ่งกระพือความตึงเครียดระหว่างทั้ง 2 ชาติ
ระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อค่ำวานนี้ (22 เม.ย.) ทรัมป์ ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนกฎการปะทะของกองทัพแต่อย่างใด ขณะที่ เดวิด นอร์ควิสต์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็อธิบายว่า คำขู่ของ ทรัมป์ มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องปรามอิหร่าน และกองทัพเรือจะยังคงปฏิบัติตามสิทธิ์ในการป้องกันตนเองโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงกฎ
โฆษกกองทัพอิหร่านระบุวานนี้ (22) ว่า สหรัฐฯ ควรให้ความสำคัญกับการปกป้องทหารอเมริกันไม่ให้ติดไวรัสโคโรนามากกว่า
กองทัพสหรัฐฯ แถลงเมื่อต้นเดือนนี้ว่า มีเรือ 11 ลำของกองกำลังนาวี IRGC แล่นเข้ามาใกล้เรือรบและเรือยามฝั่งสหรัฐฯ ในอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ “อันตรายและยั่วยุ” โดยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เรืออิหร่านพุ่งเข้าประชิดเรือยามฝั่งเมาอี (Cutter Maui) ของสหรัฐฯ ในระยะห่างเพียง 9 เมตร
ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ทวีความรุนแรงขึ้นในปีนี้ หลังสหรัฐฯ ส่งโดรนไปลอบสังหารนายพล กาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ (Quds) ระหว่างเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในอิรัก
อิหร่านลงมือแก้แค้นในวันที่ 8 ม.ค. ด้วยการยิงถล่มฐานทัพ อัยน์ อัล-อาซาด ในอิรักซึ่งมีทหารอเมริกันประจำการอยู่ และแม้สหรัฐฯ จะไม่สูญเสียกำลังพลจากเหตุการณ์นี้ แต่ก็มีทหารกว่า 100 นายที่บาดเจ็บทางสมอง