นิวยอร์กโพสต์ - เจ้าหน้าที่รัฐนิวยอร์กยกเลิกคำชี้แนะอันเป็นถกเถียงกรณีออกคำสั่งให้บรรดาผู้ปฏิบัติงานประจำหน่วยฉุกเฉินต่างๆ อย่าได้สนใจกู้ชีพใครก็ตามที่ชีพจรหยุดเต้นไปแล้วตอนไปถึงจุดเกิดเหตุ หลังเกิดสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ล้นโรงพยาบาล
นพ.โฮเวิร์ด ซัคเคอร์ กรรมาธิการสาธารณสุขของรัฐนิวยอร์ก ในวันพุธ (22 เม.ย.) ได้สั่ง “ยกเลิก” คำชี้แนะฉบับดังกล่าว โดยทางกระทรวงสาธารณสุขรัฐนิวยอร์กแถลงว่า แม้คำชี้แนะซึ่งเป็นปัญหานี้ ออกมาตามข้อเสนอของบรรดาผู้นำทางการแพทย์ของสภาบริการกู้ภัยฉุกเฉินท้องถิ่นแห่งนิวยอร์ก และสภาที่ปรึกษาของรัฐ อีกทั้งได้รับการรับรองจากสำนักงานบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ตลอดจนยังอยู่ในมาตรฐานระดับชาติขั้นต่ำสุดซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน
“ทว่า มันก็ไม่ได้สะท้อนถึงมาตรฐานของนิวยอร์ก และด้วยเหตุผลนี้ กรรมาธิการการกระทรวงสาธารณสุข (รัฐนิวยอร์ก) นพ.โฮเวิร์ด ซัคเคอร์ จึงสั่งให้ยกเลิกคำชี้แนะนี้แล้ว”
ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงต้นเดือน สภาบริการกู้ภัยฉุกเฉินท้องถิ่นแห่งนิวยอร์ก ซึ่งมีหน้าที่ดูแลบริการรถฉุกเฉินของเมือง ออกแนวทางปฏิบัติใหม่ว่า คนไข้ที่หัวใจหยุดเต้นไปแล้วและไม่สามารถกระตุ้นให้หัวใจกลับมาเต้นใหม่ได้ ณ จุดเกิดเหตุ ไม่ควรถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในความพยายามกู้ชีพเพิ่มเติมอีกต่อไป
แต่ในคำชี้แนะของสภาบริการกู้ภัยฉุกเฉินท้องถิ่น ยังคงให้โอกาสเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ในการกู้ชีพคนไข้หัวใจหยุดเต้น ณ จุดเกิดเหตุเป็นเวลา 20 นาที ทว่าคำชี้แนะอันเป็นที่ถกเถียงของกระทรวงสาธารณสุขนิวยอร์กได้พรากช่วงเวลา 20 นาทีดังกล่าวไป
โรงพยาบาลต่างๆ ในนิวยอร์กอยู่ในภาวะแน่นไปด้วยผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่กำลังตาย และบ่อยครั้งที่โรงพยาบาลไม่มีเตียงในห้องไอซียูเพียงพอ
ในบันทึกคำสั่งซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขรัฐนิวยอร์กเผยแพร่ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่า “การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสิ่งจำเป็นระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉิน (EMS) ด้วยการลดการสัมผัสกับผู้ป่วย รวมถึงสงวนไว้ซึ่งทรัพยากรต่างๆ และรับประกันว่าเครื่องไม้เครื่องมือจะถูกใช้อย่างดีที่สุดเพื่อปกป้องชีวิตผู้คนจำนวนมาก” บันทึกดังกล่าวระบุ
เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์แสดงความไม่พอใจต่อคำสั่งดังกล่าว “พวกเขาไม่ให้ผู้ป่วยมีโอกาสที่ 2 ที่จะได้มีชีวิตรอดอีกต่อไป” โอเวน บาร์ซิเลย์ ประธานสหภาพแรงงาน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉินเป็นสมาชิกอยู่ กล่าว “งานของเราคือกู้ชีพคนไข้ให้กลับมามีชีวิต แนวทางปฏิบัตินี้พรากมันไปจากเรา”