นิวยอร์กโพสต์ - รัฐนิวยอร์กเพิ่งออกคำแนะนำที่น่าตื่นตะลึง แนะนำให้บรรดาผู้ปฏิบัติงานประจำหน่วยฉุกเฉินต่างๆ อย่าได้สนใจกู้ชีพใครก็ตามที่ชีพจรหยุดเต้นไปแล้วตอนไปถึงจุดเกิดเหตุ หลังเกิดสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ล้นโรงพยาบาล
เดิมทีบรรดาเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ได้รับคำแนะนำให้ใช้เวลา 20 นาทีในความพยายามกู้ชีพผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะหัวใจหยุดเต้น อย่างไรก็ตาม ในบันทึกเอกสารที่ทางกระทรวงสาธารณสุขรัฐนิวยอร์กที่เผยแพร่ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ยกเลิกคำแนะนำดังกล่าว
“การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสิ่งจำเป็นระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉิน (EMS) ด้วยการลดการสัมผัสกับผู้ป่วย รวมถึงสงวนไว้ซึ่งทรัพยากรต่างๆ และรับประกันว่าเครื่องไม้เครื่องมือจะถูกใช้อย่างดีที่สุดเพื่อปกป้องชีวิตผู้คนจำนวนมาก” ถ้อยแถลงระบุ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์แสดงความไม่พอใจต่อคำสั่งดังกล่าว “พวกเขาไม่ให้ผู้ป่วยมีโอกาสที่ 2 ของการมีชีวิตรอดอีกต่อไป” โอเวน บาร์ซิเลย์ ประธานสหภาพแรงงาน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉินเป็นสมาชิกอยู่กล่าว “งานของเราคือกู้ชีพคนไข้ให้กลับมามีชีวิต คำแนะนำนี้พรากมันไปจากเรา”
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน สภาบริการกู้ภัยฉุกเฉินท้องถิ่นแห่งนิวยอร์ก ซึ่งมีหน้าที่ดูแลบริการรถฉุกเฉินของเมือง ออกคำแนะนำใหม่ว่าคนไข้ที่หัวใจหยุดเต้นไปแล้วและไม่สามารถกระตุ้นให้หัวใจกลับมาเต้นใหม่ได้ ณ จุดเกิดเหตุ ไม่ควรถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในความพยายามกู้ชีพเพิ่มเติมอีกต่อไป
โรงพยาบาลต่างๆ ในนิวยอร์กอยู่ในภาวะแน่นไปด้วยผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ที่กำลังตาย และบ่อยครั้งที่โรงพยาบาลไม่มีเตียงในห้องไอซียูเพียงพอ
ในคำสั่งของสภาบริการกู้ภัยฉุกเฉินท้องถิ่น ยังคงให้โอกาสเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ในการกู้ชีพคนไข้หัวใจหยุดเต้น ณ จุดเกิดเหตุเป็นเวลา 20 นาที ทว่าแนะนำล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุขนิวยอร์กได้ยกเลิกช่วงเวลา 20 นาทีดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์รายหนึ่งของหน่วย FDNY ให้สัมภาษณ์ของนิวยอร์กโพสต์ว่า “ตอนนี้กลายเป็นว่าเราไม่ได้เวลา 20 นาทีสำหรับทำ CPR (กู้ชีพ) หากคนไข้ชีพจรหยุดเต้น พวกเขาปล่อยให้คนไข้ตายไปเฉยๆ เลย”
แม้บรรดาเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์แม้มีคนไข้แค่ 3 หรือ 4 คนจากทุกๆ 100 คนเท่านั้นที่ชีพจรหยุดเต้นแล้วสามารถคืนชีพได้ผ่านการทำ CPR ซึ่งถือว่าเป็นเปอร์เซนต์ที่เล็กน้อยมาก แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า “เพียงแค่ 3 หรือ 4 คนก็ถือว่าสำคัญยิ่ง”
กระทรวงสาธารณสุขของรัฐนิวยอร์ก ยืนกรานว่า คำแนะนำใหม่นี้ใช้กันในหลายพื้นที่ของสหรัฐฯเช่นเดียวกับที่อื่นๆ ทั่วโลก แม้กระทั่งก่อนที่โควิด-19 จะแพร่ระบาดด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม ทาง FDNY ออกถ้อยแถลงเป็นลายลักษณ์อักษรเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว หรือหนึ่งวันหลังรัฐเผยแพร่คำสั่ง โดยพวกเขาได้แจ้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ของเมืองว่า “ระบบ 911 ของนิวยอร์กจะคงสถานะดูแลประชาชนในระดับสูงต่อไป” ซึ่งนั่นหมายความว่าจะพยายามกู้ชีพผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นตามเดิม แม้มีคำสั่งจากทางรัฐก็ตาม
