xs
xsm
sm
md
lg

In Clip : แรงงานเอกชนฝรั่งเศส 10.2 ล้านคน ขอรับความช่วยเหลือว่างงานจากรัฐ ส่วน UN เตือน โควิด-19ทำให้เกิดวิกฤตภาวะขาดอาหารครั้งใหญ่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์ – ตัวเลขติดเชื้อรวมทั่วโลกวันนี้(22 เม.ย)อยู่ที่ 2,582,529 คน เสียชีวิต 178,481 คน สหรัฐฯยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อรวมสูงที่สุดในโลก 825,306 คน และเสียชีวิตมากที่สุดในโลกที่ 45,075 คน สหประชาชาติออกมาเตือนว่า วิกฤตโควิด-19 ทำให้มีการเกิดภาวะการขาดอาหารครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมี ส่งผลทำให้คนทั่วโลกจำนวนอีก 130 ล้านคนต้องเสี่ยงต่อการอดอาหาร ขณะที่ฝรั่งเศสมีแรงงานภาคเอกชนราว 10.2 ล้านคนที่อยู่ในสภาวะว่างงานจากวิกฤตขอรับความช่วยเหลือเงินชดเชย

หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานวันนี้(22 เม.ย)ว่า ครึ่งหนึ่งของประชากรแรงงานในฝรั่งเศสล่าสุดได้ลงนามขอรับความช่วยเหลือการว่างงานชั่วคราวของรัฐบาลฝรั่งเศสแล้ว อ้างอิงจากรัฐมนตรีแรงงานฝรั่งเศส มอรีล เพอนิโคด์ (Muriel Pénicaud)

ทั้งนี้พบว่าแรงงานภาคเอกชนฝรั่งเศสจำนวน 10.2 ล้านคนในเวลานี้ว่างงานชั่วคราว และเงินเดือนส่วนใหญ่ที่ได้มาจากรัฐซึ่งเป็นเงินชดเชย เพอนิโคด์กล่าวในวันพุธ(22)

ทั้งนี้พบว่าโครงการช่วยเหลือของรัฐบาลปารีสถูกกล่าวว่า "มีความใจกว้างมากที่สุดในยุโรป" นั้นได้ใช้กับบริษัท 820,000 แห่งในฝรั่งเศสหรือคิดเป็น 60% ซึ่งส่วนใหญ่ถูกบังคับให้ต้องหยุดการทำธุรกิจเนื่องมาจากเหตุผลวิกฤตการระบาดและมีการปิดเมืองตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค

ในภาคส่วนการก่อสร้างฝรั่งเศส พบว่า 93% ของลูกจ้างจำนวน 1.2 ล้านคนนั้นต่างเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือการว่างงาน รวมไปถึงอีก 90% ของภาคส่วนการโรงแรมและภัตตาคาร

ทั้งนี้พบว่าพนักงานบริษัทที่ต้องว่างงานชั่วคราวจะได้รับเงิน 84% ของเงินเดือนจากรัฐจากการที่ปารีสออกมาตรการป้องกันการเลิกจ้างครั้งมโหฬาร ซึ่งคนที่จะได้รับอานิสงค์จะอยู่ในกลุ่มลูกจ้างประจำ ลูกจ้างระยะสั้น 12 เดือน แต่ไม่ใช่ในกลุ่มลูกจ้างอิสระ

รัฐมนตรีแรงงานฝรั่งเศสชี้แจงกับ BFMTV ว่า แรงงาน 10.2 ล้านคนในเวลาร่วมอยู่ในโครงการ และ 98% ของความต้องการสำหรับการจ่ายการว่างงานชั่วคราวกำลังอยู่ในระหว่างการต่อรองประนีประนอมกับบริษัทภายใน 7-10 วัน

ทั้งนี้ฝรั่งเศสมีจำนวนผู้ติดเชื้อรวมวันพุธ(22)อยู่ที่ 159,300 คน และเสียชีวิตจำนวน 20,829 คน

CNN สื่อสหรัฐฯรายงานว่า อ้างอิงจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์พบว่า ตัวเลขติดเชื้อรวมทั่วโลกวันนี้(22 เม.ย)อยู่ที่ 2,582,529 คน เสียชีวิต 178,481 คน สหรัฐฯยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อรวมสูงที่สุดในโลก 825,306 คน และเสียชีวิตมากที่สุดในโลกที่ 45,075 คน โดยเมืองนิวยอร์ก ซิตี มีจำนวนผู้เสียชีวิต 14,887 คน

ทั้งนี้องค์การสหประชาชาติออกมาประกาศเตือนถึง การเกิดวิกฤตการขาดอาหารอย่างมโหฬารจากวิกฤตโควิด-19ในช่วงเวลาไม่กี่เดือน พร้อมกับชี้ว่า จะทำให้ประชาชนจำนวน 130 ล้านคนเสี่ยงที่จะอยู่ในภาวะอดอยาก

โดยในโมเดลสถานการณ์ที่ร้ายแรงที่สุด ***เชื่อว่าวิกฤตขาดอาหารจะเกิดขึ้นใน 36 ประเทศทั่วโลก*** ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลก WFP แถลงเตือนเมื่อวานนี้(21) พร้อมชี้ว่า “ประเทศจากประเทศเหล่านั้นมีประชากรของตัวเองกว่า 1 ล้านคนที่เข้าใกล้ความหิวโหย”

ทั้งนี้พบว่า WFP ออกมาชี้ในรายงานประจำปีวิกฤตทางอาหารที่ถูกเผยแพร่ออกมาในสัปดาห์นี้ว่า มี 55 ชาติที่อยู่ในความเสี่ยงมากที่สุดของการตกอยู่ในภาวะความอดอยาก โดยเตือนไปถึงระบบสาธารณสุขที่เปราะบางของประเทศเหล่านี้จะไม่สามารถรองรับกับผลกระทบที่เกิดจากไวรัสได้

และจากทั้งหมดมี 10 ประเทศถูกชี้ว่า “มีความเสี่ยงเป็นพิเศษ”ได้แก่ เยเมน สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก อัฟกานิสถาน เวซุเอลา เอธิโอเปีย ซูดานใต้ ซูดาน ไนจีเรีย และเฮติ

ทั้งนี้ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลก WFP ได้อ้างไปถึงความขัดแย้ง ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ความช่วยเหลือที่ลดลง และการดิ่งลงของราคาน้ำมันล้วนแต่เป็นปัจจัยทำให้เกิดภาวะการขาดแคลนอาหารขึ้น พร้อมกับเรียกร้องให้มีมาตรการออกมาอย่างฉับพลันเพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤต

เดวิด บีสลีย์ (David Beasley) ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการอาหารโลก WFP และอดีตผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนาที่มีผลการติดเชื้อโควิด-19 เป็นบวกอ้างอิงการรายงานจากเอพีเมื่อวันที่ 19 มี.ค ได้แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติว่า

“ขณะที่กำลังต่อสู้กับวิกฤตการระบาดโรคโควิด-19 เรากำลังเข้าใกล้สถานการณ์ของวิกฤตความหิวโหยทั่วโลก” และเสริมต่อว่า “เวลานี้เรากำลังอยู่ในอันตรายอย่างแท้จริงที่มีผู้คนจำนวนมากขึ้นเสี่ยงที่จะต้องเสียชีวิตจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดมาจากโรคโควิด-19มากกว่าตัวไวรัสเอง”








กำลังโหลดความคิดเห็น