เอเอฟพี - ราคาน้ำมันสัญญาสหรัฐฯหลุด 11 ดอลลาร์ ต่ำสุดในรอบ 22 ปี ระหว่างการซื้อขายในวันจันทร์ (20 เม.ย.) ขยับลงจากเมื่อวันศุกร์ (17 เม.ย.) แล้วราวๆ 40% ในขณะที่ตลาดประสบภาวะอุปทานล้นความต้องการ ท่ามกลางอุปสงค์เหือดหายอันเนื่องจากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ทรุดตัวลงสู่ระดับ 10.77 ดอลลาร์ ระหว่างการซื้อขาย ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1998
อย่างไรก็ตาม การซื้อขายในวันนี้ มีแรงขับเคลื่อนทางเทคนิคด้วยส่วนหนึ่ง เนื่องจากนักลงทุนปิดสถานะการลงทุนของตนเองก่อนหน้าที่สัญญางวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมจะหมดอายุลงในวันจันทร์ ในขณะที่สัญญางวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ปรับลดราวๆ 9.7% อยู่ที่ 22.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลระหว่างซื้อขาย
“ปัญหาเกี่ยวกับความไม่สมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์โลกเริ่มสำแดงให้เห็นอย่างแท้จริงในราคาน้ำมัน” บียอร์นาร์ ตอนฮัวเกน นักวิเคราะห์จากรายสตัด เอเนอร์จี กล่าว “ในขณะที่กำลังผลิตไม่ค่อยได้รับผลกระทบ คลังน้ำมันถูกเติมเต็มในทุกวัน โลกกำลังใช้น้ำมันน้อยลงทุกขณะ และตอนนี้พวกผูุ้ผลิตเริ่มรับรู้สิ่งนี้ได้จากราคาน้ำมัน”
ในส่วนของสัญญายุโรป น้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 6.5% ระหว่างการซื้อขายในวันจันทร์ (20 เม.ย.) แกว่งตัวอยู่ที่ราวๆ 26.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แม้สัญญาณการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ถึงจุดพีกแล้วในยุโรปและสหรัฐฯ แต่มันล้มเหลวไม่สามารถผลักดันให้ตลาดหุ้นในเอเชียและยุโรปขยับขึ้นโดยทั่วไป เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับคลังสำรองน้ำมันทั่วโลกที่ใกล้แตะระดับสูงสุดแล้ว ท่ามกลางอุปสงค์ที่เหือดหายไปจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ ในส่วนของตลาดหุ้นสหรัฐฯก็ส่อแววเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน โดยวอลล์สตรีทก็แกว่งตัวลงราวๆ 1.5% ทันทีที่เปิดตลาด ตามแรงฉุดหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันสัญญาสหรัฐฯแตะระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปี
พวกนักวิเคราะห์มองว่า ข้อตกลงเมื่อช่วงกลางเดือนระหว่างโอเปกและพันธมิตร ในการปรับลดกำลังผลิตลง 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อย เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์และข้อจำกัดด้านการเดินทางรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัส ทำให้อุปสงค์น้ำมันโลกพังครืน เพราะประชาชนหลายพันล้านคนต้องเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน