เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นต่อเนื่องในวันศุกร์ (3 เม.ย.) ยังได้แรงหนุนจากความคาดหวังโอเปกกับพันธมิตรจะลดกำลังผลิต ส่วนวอลล์สตรีทดิ่งหนักจากข้อมูลการจ้างงานอันน่าหดหู่ของสหรัฐฯ ท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ปัจจัยนี้ดันทองคำปิดบวก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 3.02 ดอลลาร์ ปิดที่ 28.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 4.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 34.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ร็อบบี้ เฟรเซอร์ นักวิเคราะห์ด้านตลาดโภคภัณฑ์ของชไนเดอร์ อิเล็กทริก มองว่า “แรงหนุนมาจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมปป์ ผลักดันแนวคิดการร่วมกลุ่มพันธมิตรผู้ผลิตน้ำมันครั้งใหญ่กับรัสเซียและซาอุดีอาระเบีย และมีความเป็นไปได้แม้กระทั่งสหรัฐฯจะร่วมลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงด้วย เพื่อต่อสู้กับอุปสงค์ที่หายไปอันเนื่องจากโควิด-19”
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (3 เม.ย.) ดิ่งหนัก จากข้อมูลภาคแรงงานอันน่าหวาดวิตก ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าส่อเป็นลางสังหรณ์สำหรับภาวะคนตกงานในอนาคต สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ดาวโจนส์ ลดลง 360.91 จุด (1.69 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 21,052.53 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 38.25 จุด (1.51 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,488.65 จุด แนสแดค ลดลง 114.23 จุด (1.53 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,373.08 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรดิ่งลง 701,000 ตำแหน่งในเดือนมีนาคม ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 10,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานพุ่งขึ้นสู่ระดับ 4.4% ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม.2017 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.7% หลังจากแตะระดับ 3.5% ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ยอมรับว่าข้อมูลดังกล่าวยังไม่ใช่ขอบเขตความเสียหายอย่างครบถ้วนจากวิกฤตโควิด-19 หลังจากก่อนหน้านี้ได้เปิดเผยว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกมีถึง 10 ล้านคนในช่วง 2 สัปดาห์หลังสุด
ผลกระทบของโควิด-19 ที่มีต่อภาคแรงงานสหรัฐฯ กระตุ้นให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และดันราคาทองคำในวันศุกร์ (3 เม.ย.) ปิดในแดนบวก โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,645.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์