เอเจนซีส์ – นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์ พร้อมคณะรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงอีกหลายคน พร้อมใจหั่นเงินเดือนตัวเองลง 20% เป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
รัฐบาลกีวีสั่งปิดหน่วยงานรัฐ, โรงเรียน และบริการที่ไม่จำเป็นมานานกว่า 3 สัปดาห์เพื่อชะลอการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยมาตรการล็อคดาวน์ที่ถือได้ว่าเข้มงวดเป็นอันดับต้นๆ ของโลกส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์แทบจะหยุดนิ่ง
รัฐบาลคาดการณ์ว่าตัวเลขคนตกงานจะเพิ่มสูงขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั้งในและนอกประเทศ
“นี่คือส่วนที่พวกเราสามารถทำได้ และด้วยเหตุนี้เราจึงลงมือทำ” อาร์เดิร์น เอ่ยระหว่างการแถลงปรับลดเงินเดือนครม.วันนี้ (15 เม.ย.)
“เราทราบดีว่าชาวนิวซีแลนด์จำนวนมากต้องพึ่งพาเงินอุดหนุนค่าแรง, ยอมถูกลดเงินเดือน หรือแม้กระทั่งสูญเสียอาชีพการงาน อันเป็นผลมาจากไวรัสที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก”
อาร์เดิร์น ระบุว่า เงินเดือนของเธอและคณะรัฐมนตรี รวมถึงข้าราชการระดับสูง จะถูกปรับลดลง 1 ใน 5 เป็นระยะเวลา 6 เดือน
มาตรการนี้จะส่งผลให้รายได้ตลอดทั้งปีของผู้นำหญิงกีวีลดลงจาก 470,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (9.2 ล้านบาท) เหลือเพียง 376,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (7.38 ล้านบาท) หรือหายไปประมาณ 47,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (922,000 บาท)
“แม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยให้สถานะทางการคลังของรัฐบาลเปลี่ยนไปมากนัก แต่ก็เป็นการแสดงภาวะผู้นำ” เธอให้สัมภาษณ์
อาร์เดิร์น ย้ำว่า มาตรการลดเงินเดือนไม่ได้มีผลครอบคลุมถึงภาคบริการสาธารณะทั้งหมด
“บุคลากรในภาคบริการสาธารณะส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อุทิศตนทำงานอยู่แนวหน้า เช่น พยาบาล ตำรวจ และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข เราจะไม่ลดเงินเดือนพวกเขา และดิฉันก็ไม่คิดว่าชาวนิวซีแลนด์จะเห็นด้วยกับการลดเงินเดือนคนเหล่านี้”
นิวซีแลนด์พบผู้ติดเชื้อใหม่อีก 20 รายในวันนี้ (15) ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 1,386 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 9 ราย
ทั้งนี้ คาดว่ารัฐบาล อาร์เดิร์น จะตัดสินใจในสัปดาห์หน้าว่าจะต้องขยายมาตรการล็อคดาวน์ระดับที่ 4 ต่อไปอีกหรือไม่
แกรนต์ โรเบิร์ตสัน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังนิวซีแลนด์ได้ชี้แจงต่อผู้นำภาคธุรกิจวันนี้ (15) ว่า หากรัฐบาลตัดสินใจผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ ก็จะเน้นไปที่การเดินหน้ากิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ
โรเบิร์ตสัน เผยด้วยว่า ร่างงบประมาณประจำปีซึ่งจะประกาศในวันที่ 14 พ.ค. จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19