เอเจนซีส์ – ไมเคิล แอตคินสัน ผู้ตรวจการชุมชนข่าวกรองสหรัฐฯที่ถูกประธานาธิบดีสหรัฐฯสั่งปลดในวันศุกร์(3 เม.ย) ล่าสุดออกมาโต้ว่า เขาถูกไล่ออกเพราะทำหน้าที่ของตัวเอง แอตคินสันนำเรื่องโทรศัพท์ผู้นำยูเครนเข้าแจ้งต่อสภาคองเกรสจนทำให้ผู้นำสหรัฐฯถูกมติถอดถอนจากตำแหน่งในเวลาต่อมา
CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้(6 เม.ย)ว่า ไมเคิล แอตคินสัน (Michael Atkinson) ซึ่งในเวลานี้กลายเป็นอดีตผู้ตรวจการชุมชนข่าวกรองสหรัฐฯหลังจากถูกประธานาธิบดี โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ให้ออกจากตำแหน่งในคืนวันศุกร์(3)
โดยแอตคินสันเป็นผู้แจ้งต่อสภาคองเกรสถึงคำร้องนักแฉชุมชนข่าวกรองสหรัฐฯเกี่ยวกับโทรศัพท์ผู้นำยูเครนและนำมาสู่การที่ผู้นำสหรัฐฯถูกสภาล่างสหรัฐฯมีมติให้ถอดถอนตัวเขาออกจากตำแหน่งในที่สุด
โดยในหนังสือที่ทรัมป์แจ้งต่อคณะกรรมาธิการด้านข่าวกรองสหรัฐฯประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯและวุฒิสภาสหรัฐฯระบุว่า แอตคินสันจะออกจากตำแหน่งภายใน 30 วัน และเขาถูกสั่งพักงานโดยมีผลบังคับใช้ทันที อ้างอิงจากแหล่งข่างสภาคองเกรสสหรัฐฯ
“ในกรณีที่จากตำแหน่งอื่นซึ่งผมในฐานะประธานาธิบดีมีอำนาจในการแต่งตั้ง..มันเป็นสิ่งสำคัญที่ผมต้องมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ต่อผู้ถูกแต่งตั้งเพื่อทำหน้าที่ในฐานะผู้ตรวจการ” ทรัมป์กล่าวผ่านหนังสือแจ้ง และเสริมต่อว่า “แต่ไม่ใช่ในกรณีนี้ต่อผู้ตรวจการทั่วไปคนนี้”
CNN รายงานว่า แหล่งข่าวสภาคองเกรสเปิดเผยว่า แอตคินสันได้รับแจ้งในค่ำวันศุกร์(3)ว่า เขาถูกทรัมป์สั่งให้ออกจากตำแหน่ง
ซึ่งในวันอาทิตย์(5) แอตคินสันได้ออกมาตอบโต้การที่เขาถูกสั่งปลดผ่านแถลงการณ์ว่า เขารู้สึกผิดหวังและเศร้าต่อการตัดสินใจของทรัมป์ที่สั่งให้เขาออกจากงานในวันศุกร์(3) ซึ่งทางผู้นำสหรัฐฯได้ระบุว่า ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเขา 100%
“มันเป็นการยากที่จะไม่คิดว่าประธานาธิบดีสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวผมจากการที่ผมทำหน้าที่อย่างตั้งใจต่อความรับผิดชอบในฐานะผู้ตรวจการทั่วไปที่เป็นอิสระและไม่ลำเอียง และจากพันธสัญญาที่ผมจะทำเช่นนั้นต่อไป”
ทั้งนี้พบว่าแอตคินสันได้เรียกร้องให้ผู้ร่วมงานยังคงทำหน้าที่อย่างเป็นอิสระต่อไป โดยชี้ว่า “รัฐบาลของเราจะมีผลประโยชน์ต่อเมื่อแต่ละคนนั้นถูกเรียกร้องให้ออกมารายงานถึงเคสต้องสงสัยฉ้อโกง การใช้โดยเปล่าประโยชน์ และการใช้อย่างมิชอบ”