เอเจนซีส์ - สหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิต 24 ชั่วโมง ที่ 1,224 ราย ยอดดับรวมวันอาทิตย์ (5 เม.ย.) 8,488 คนทั่วโลกมียอดผู้ติดเชื้อล่าสุด 1,202,236 คน 1 ใน 4 ของจำนวนทั้งหมดอยู่ในสหรัฐฯ ที่ 311,544 คน ด้านแอนดรูว์ โคโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กสุดปลื้ม เครื่องช่วยหายใจ 1,000 ตัว จัดให้จากปักกิ่งเดินทางมาถึงสนามบิน JFK เมื่อวานนี้ (4 เม.ย.) ด้านผู้นำสหรัฐฯ ยังคงประกาศจะมีคนเสียชีวิตมากขึ้นจากโควิด-19 ไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (4 เม.ย.) ว่า สหรัฐฯ มีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันเสาร์ (4) ที่ 1,224 ราย ส่งผลทำให้ยอดดับรวมวันอาทิตย์ (5) อ้างอิงจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ อยู่ที่ 8,488 คน ทั่วโลกมียอดผู้ติดเชื้อล่าสุด 1,202,236 คน 1 ใน 4 ของจำนวนทั้งหมดอยู่ในสหรัฐฯ ที่ 311,544 คน
ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกอยู่ที่ 64,753 คน ในขณะที่สเปนมีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มวันเสาร์ (4) ที่ 809 คน ทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตรวมที่ 11,744 คน ส่วนผู้เสียชีวิตอันดับ 1 ยังคงเป็นอิตาลีที่ 15,362 คน ฝรั่งเศสอันดับ 3 ที่ 7,560 คนอังกฤษ อันดับ 4 ที่ 4,313 คน และหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ ดินแดนโพ้นทะเลของอังกฤษมีรายงานการติดเชื้อครั้งแรกที่ 1 คน
ในวันเสาร์ (4) ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แอนดรูว์ โคโม ออกมาแถลงขอบคุณรัฐบาลปักกิ่งที่ให้การช่วยเหลือรัฐด้วยการบริจาคเครื่องช่วยหายใจจำนวน 1,000 เครื่อง และได้เดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาต์จอห์นเอ็ฟเคนเนดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โคโมกล่าวว่า “นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่ นี่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงกับพวกเราทั้งหมด พวกเรายังไม่ถึงจุดพีก (โรคโควิด-19) ดังนั้น พวกเราจะยังคงอยู่ในขั้นความร่ำรวยที่..หากว่าคุณเป็น..ในการรวบรวมทุกสิ่งในมือเท่าที่จะทำได้”
จำนวนผู้เสียชีวิตเฉพาะแค่ในเมืองนิวยอร์ก ซิตี ที่ 2,624 คน ซึ่งสถานการณ์ในนิวยอร์กเวลานี้ไม่ต่างเมืองอู่ฮั่นของจีนที่เห็นเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินทางการแพทย์ในเมืองบรุ๊คลินนำศพผู้เสียชีวิตขนขึ้นรถตู้เมื่อวานนี้ (4)
ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ ออกมาเตือนประชาชนชาวอเมริกันในวันเสาร์ (4) ให้เตรียมรับความพร้อมว่า จะต้องมีการเสียชีวิตเป็นจำนวนมากในสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า
“นี่จะถือเป็นสัปดาห์ที่สาหัสที่สุดระหว่างสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า และจะมีการเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ช่างโชคร้าย หากมีการเสียชีวิตน้อยกว่าหากว่ามันยังไม่จบมันจะยังคงมีการตายเกิดขึ้น” ทรัมป์แถลง
และในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว ผู้นำสหรัฐฯ ยังคงออกมาอ้างถึงผลการใช้ "ยาไฮดร็อกซีคลอโรควิน" (hydroxychloroquine) รักษาโรคมาลาเรีย ว่ามีศักยภาพในการป้องกันไม่ให้ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ เข้าสู่เซลล์ร่างกายของมนุษย์ได้ โดยชี้ว่า ผู้ป่วยโรคพุ่มพวง หรือโรคลูปัส ภูมิแพ้ตัวเอง ที่ใช้ยาตัวนี้ทำการรักษานั้นมีโอกาสน้อยกว่าที่จะติดไวรัสโคโรนา แต่อย่างไรก็ตามดร. แอนโธนี เฟาชี (Anthony Fauci) ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติด้านภูมิแพ้และโรคติดเชื้อ (National Institute of Allergy and Infectious Diseases)ออกมายืนยันในการแถลงข่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างโรคโควิด-19 และผู้ป่วยโรคพุ่มพวงนั้นยังคงอยู่ในระหว่างการศึกษา ส่งผลทำให้หลังจากนั้นทรัมป์ออกมาประกาศว่า เขาจะกินยาไฮดร็อกซีคลอโรควินเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 สะท้อนถึงผลการตรวจเป็นลบครั้งที่ 2 ของตัวเอง