รอยเตอร์ - รัฐบาลจีนจัดพิธีไว้อาลัยให้แก่ ‘วีรชน’ หลายพันคนที่เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในวันนี้ (4 เม.ย.) โดยมีการลดธงครึ่งเสาทั่วประเทศ และงดเว้นกิจกรรมบันเทิงทุกรูปแบบ
พิธีไว้อาลัยถูกจัดขึ้นในช่วงเริ่มต้นเทศกาลเชงเม้ง ซึ่งชาวจีนนับล้านๆ ครอบครัวจะทำพิธีบูชาดวงวิญญาณบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว
ชาวจีนทั่วประเทศยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 3 นาที เมื่อเวลา 10.00 น.ตามเวลากรุงปักกิ่ง เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิต ซึ่งรวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นแนวหน้าต่อสู้ไวรัส ขณะที่รถยนต์ รถไฟ และเรือ ก็มีการบีบแตรหรือเปิดหวูดเพื่อเป็นการส่งสัญญาณไว้อาลัยด้วย
ที่ทำเนียบจงหนานไห่ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และผู้นำจีนคนอื่นๆ ยืนสงบนิ่งเบื้องหน้าธงชาติ และมีการติดเข็มกลัดดอกไม้สีขาวไว้ที่หน้าอกเสื้อเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการไว้ทุกข์
ข้อมูลสถิติจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน ระบุว่า มีประชากรกว่า 3,300 คน ในจีนแผ่นดินใหญ่สังเวยชีวิตให้แก่โรคระบาด ซึ่งอุบัติขึ้นที่มณฑลหูเป่ยในเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว
เมืองอู่ฮั่นซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดได้เปลี่ยนสัญญาณไฟจราจรเป็นสีแดงในเวลา 10.00 น. เพื่อให้การสัญจรบนถนนทุกสายหยุดนิ่งเป็นเวลา 3 นาที
มหานครซึ่งมีผู้อยู่อาศัยราว 11 ล้านคนแห่งนี้ มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสไปถึง 2,567 ราย หรือคิดเป็น 75% ของยอดผู้เสียชีวิตทั่วประเทศจีน หนึ่งในนั้นคือ นพ.หลี่ เหวินเหลียง หมอหนุ่มซึ่งเป็นคนแรกที่พยายามออกมาเตือนสังคมให้รับรู้ถึงการอุบัติขึ้นของไวรัสร้ายแรง แต่กลับถูกตำรวจอู่ฮั่นขู่ลงโทษฐาน “แพร่ข่าวลือ”
หลังจากนั้นมา ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้แพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก ทำให้มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 ล้านคน คร่าชีวิตผู้ป่วยอีกกว่า 55,000 คน และทำให้เศรษฐกิจโลกแทบจะกลายเป็นอัมพาต
สหรัฐอเมริกาในวันนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่าจีนถึง 3 เท่าตัว
“หลี่ เหวินเหลียง คือ วีรบุรุษตัวจริง เขาเป็นผู้ค้นพบมันแต่เนิ่นๆ และแม้ตอนนี้จะสายไปเสียแล้ว แต่ประเทศของเราก็กลับมาเข้มแข็งยิ่งกว่าใครๆ” กาน เว่ยเหนียง ชาวเมืองอู่ฮั่นวัย 78 ปี ให้สัมภาษณ์
