รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เข้ารับการตรวจคัดกรองไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เป็นครั้งที่ 2 เมื่อวานนี้ (2 เม.ย.) โดยใช้วิธีตรวจแบบใหม่ที่ทราบผลภายในไม่ถึง 15 นาที และผลที่ออกมาก็ยืนยันว่าเขา “ไม่ติดเชื้อ”
“ผมไปตรวจเพราะอยากรู้เท่านั้นเองว่ามันทำงานเร็วแค่ไหน” ทรัมป์ ระบุ
ผู้นำสหรัฐฯ เข้ารับการตรวจคัดกรองไวรัสครั้งแรกเมื่อเดือน มี.ค. หลังไปสัมผัสกับเจ้าหน้าที่บราซิลคนหนึ่ง ซึ่งต่อมายืนยันว่า ติดเชื้อโควิด-19 ในขณะที่ ทรัมป์ เองมีผลตรวจเป็นลบ
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว เผยว่า ทรัมป์ ได้ทดลองใช้เครื่องตรวจของ แอบบ็อตต์ แลบบอราทอรีส์ (Abbott Laboratories) ซึ่งสามารถรู้ผลได้ภายใน 15 นาที
ระหว่างการแถลงข่าวประจำวันที่ทำเนียบขาว ทรัมป์ ระบุว่า ชาวอเมริกันสามารถสวมหน้ากากอนามัยได้ถ้าต้องการ
“ถ้าประชาชนต้องการสวมมัน พวกเขาสามารถทำได้” ทรัมป์ กล่าว พร้อมเสริมว่า การนำผ้าพันคอมาปิดใบหน้าและจมูกก็เป็นอีกวิธีที่ใช้การได้เช่นกัน
ดร.เดบอราห์ เบิร์กซ์ หนึ่งในทีมงานสู้ไวรัสของทำเนียบขาว ระบุว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) กำลังเตรียมออกคำแนะนำใหม่เกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัย เพื่อให้ชาวอเมริกันทราบวิธีป้องกันตนเองที่เหมาะสม แต่เธอย้ำว่า ประชาชนไม่ควร “หลงคิดว่าตัวเองปลอดภัย” เพียงแค่สวมหน้ากากอนามัย เนื่องจากยังมีช่องทางอื่นๆ อีกมากมายที่จะทำให้ติดเชื้อได้
ทรัมป์ ยังแสดงความไม่พอใจที่บางรัฐสั่งปล่อยตัวผู้ต้องขังที่มีความเสี่ยงน้อย เพื่อลดโอกาสการแพร่ไวรัสภายในเรือนจำ โดยระบุว่า รัฐบาลกลาง “กำลังพิจารณาว่ามีสิทธิ์ที่จะยับยั้งคำสั่งเหล่านี้ได้หรือไม่ในบางกรณี”
“นักโทษที่บางรัฐเลือกปล่อยตัวออกมานั้นเป็นอาชญากรร้ายแรงก็มี ซึ่งผมไม่ชอบ ไม่ชอบเลย” เขากล่าว
รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ เผยว่า ผู้นำสหรัฐฯ มีแผนจะประกาศจ่ายเงินชดเชยให้แก่โรงพยาบาลที่รับรักษาและคัดกรองผู้ป่วยไวรัสโคโรนาที่ไม่มีประกันสุขภาพ
“เราไม่อยากให้ชาวอเมริกันทุกคนต้องกังวลเรื่องค่าตรวจหรือค่ารักษา” เพนซ์ ระบุวานนี้ (2) “ประธานาธิบดีจะออกมาชี้แจงรายละเอียดวันพรุ่งนี้”
ทรัมป์ ยังประกาศว่า กองทัพสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางจะสร้างโรงพยาบาลสนามขึ้นที่ศูนย์การประชุม เจวิตส์ เซ็นเตอร์ (Javits Center) ในนครนิวยอร์ก เพื่อแบ่งเบาภาระงานของบุคลากรด้านสาธารณสุข โดยโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ จะรับดูแลผู้ป่วยทั่วไปที่ไม่ได้ติดเชื้อไวรัส เพื่อเปิดทางให้แพทย์และพยาบาลส่วนใหญ่ทุ่มเทสรรพกำลังต่อสู้โควิด-19 กันอย่างเต็มที่
รัฐนิวยอร์กถือเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในอเมริกา โดยมีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้วมากกว่า 47,000 คน
ทรัมป์ ซึ่งเคยปฏิเสธความร้ายแรงของไวรัสโคโรนาในช่วงแรกๆ ตัดสินใจประกาศใช้กฎหมาย Defense Protuction Act ที่ตราขึ้นในยุคสงครามเกาหลี เพื่อบังคับให้บริษัทชั้นนำต่างๆ หันมาผลิตเครื่องช่วยหายใจสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 และยังสั่งให้ค่ายรถ เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) เปิดสายการผลิตหน้ากาก N-95
“เครื่องช่วยหายใจมากกว่า 100,000 เครื่อง กำลังถูกผลิต หรือจะเริ่มผลิตในเร็วๆ นี้” ทรัมป์ กล่าว
ผู้นำสหรัฐฯ ยังเผยด้วยว่า ตนได้รับคำยืนยันจาก แมรี บาร์รา ซีอีโอจีเอ็ม ซึ่งรับรองว่า ทางบริษัทจะพร้อมเริ่มต้นผลิตเครื่องช่วยหายใจในอีกไม่ช้า