xs
xsm
sm
md
lg

งานวิจัยอินเตอร์ชี้ ‘ล็อกดาวน์อู่ฮั่น’ ลดจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วจีนถึง 7 แสนคน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


<i>ภาพแม่น้ำแยงซีและอาคารต่างๆ ในเมืองอู่ฮั่น ถ่ายเมื่อวันอังคาร (31 มี.ค.) ทั้งนี้ เมืองที่เป็นศูนย์กลางการระบาดในจีนของโควิด-19 เริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์บางส่วนตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. หลังจากใช้บังคับมากว่า 2 เดือน โดยผลการศึกษาวิจัยล่าสุดชี้ว่า มาตรการเข้มงวดเช่นนี้ได้ผล ช่วยลดจำนวนเคสติดเชื้อรายใหม่ในจีนลงได้ 700,000 ราย </i>
เอเอฟพี - ผลงานการศึกษาของนักวิจัยจากอังกฤษ, สหรัฐฯ, และจีนซึ่งนำออกเผยแพร่ทางวารสารชื่อดังเมื่อวันอังคาร (31 มี.ค.) ระบุว่า การที่จีนตัดสินใจล็อกดาวน์ปิดเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดในตอนแรกสุดของไวรัสโคโรนา “โควิด-19” อาจเป็นการช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้มากกว่า 700,000 รายทีเดียว ด้วยการชะลอการระบาดเพื่อให้เมืองอื่นๆ เตรียมพร้อมรับมือ

ผลศึกษาที่จัดทำซึ่งเผยแพร่ทางวารสาร “ไซเอนซ์” ระบุว่า มาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดกวดขันของจีนในช่วง 50 วันแรกของการระบาดของโรคร้ายจากไวรัสนี้ ทำให้เมืองอื่นๆ ทั่วประเทศมีเวลาในการเตรียมพร้อมและบังคับใช้มาตรการจำกัดเข้มงวดของตนเอง เช่น การห้ามการชุมนุมในที่สาธารณะ และการปิดสถานบันเทิง เป็นต้น

เมื่อถึงวันที่ 50 ของการระบาด ซึ่งคือวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ในประเทศจีนมีผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ 30,000 คน คริสโตเฟอร์ ดาย นักวิจัยจากออกซฟอร์ดและเป็นหนึ่งในผู้เขียนรายงานนี้กล่าว

จากการศึกษาวิเคราะห์ของทีมบ่งชี้ว่า หากไม่มีคำสั่งห้ามเดินทางในอู่ฮั่นและไม่มีการประกาศมาตรการรับมือฉุกเฉินทั่วประเทศจีนแล้ว นอกนครอู่ฮั่น ณ ตอนนั้นอาจมีผู้ติดเชื้อกว่า 700,000 คนแล้ว ดายบอก ทั้งนี้ตามการอ้างอิงที่ปรากฏในเอกสารเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับงานวิจัยชิ้นนี้

“มาตรการควบคุมของจีนดูเหมือนได้ผลโดยประสบความสำเร็จในการสกัดห่วงโซ่การแพร่เชื้อ ซึ่งหมายถึงการป้องกันการสัมผัสระหว่างผู้ติดเชื้อกับผู้ที่อ่อนแอและสามารถติดเชื้อได้ง่าย”

นักวิจัยเหล่านี้ทำการศึกษา โดยใช้ทั้งรายงานผู้ติดเชื้อ ข้อมูลข่าวสารทางสาธารณสุข รวมถึงข้อมูลจากระบบการติดตามตำแหน่งของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อตรวจสอบการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนา

ระบบการติดตามตำแหน่งของโทรศัพท์มือถือ ทำให้ได้ระลอกข้อมูลใหม่ๆ อัน “มีเสน่ห์ชวนให้หลงใหล” ออตตาร์ บียอร์นสแต็ด อาจารย์ชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยเพนน์สเตท และเป็นผู้ร่วมจัดทำรายงานอีกคนหนึ่งกล่าว


<i>พนักงานส่งของ จอดรถจักรยานยนต์พักผ่อนขณะรอคำสั่งซื้อทางโทรศัพท์  บนถนนที่ยังคงว่างเปล่าสายหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น เมื่อวันอังคาร (1 เม.ย.)  ทั้งนี้การล็อกดาวน์อู่ฮั่นทั้งหมดกำหนดจะยุติลงในวันที่ 8 เมษายน  </i>
ช่วงระยะเวลาที่ทีมนี้ศึกษากันนั้นอยู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน

บียอร์นสแต็ดบอกว่า ทีมของเขาสามารถเปรียบเทียบรูปแบบการเดินทางเข้า-ออกเมืองอู่ฮั่นระหว่างช่วงที่มีการระบาดนี้ กับข้อมูลโทรศัพท์มือถือจากเทศกาลตรุษจีนของ 2 ปีก่อนหน้า

การวิเคราะห์เปรียบเทียบดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า การเดินทางลดลงอย่างชัดเจนมากๆ หลังใช้มาตรการห้ามในวันที่ 23 มกราคมปีนี้ และจากข้อมูลนี้จึงทำให้ทางทีมสามารถคำนวณแนวโน้มการลดลงของเคสผู้ป่วยในเมืองอื่นๆ ทั่วจีน ที่มีความเชื่อมโยงกับเมืองอู่ฮั่น

การปิดเมืองอู่ฮั่นเป็นการชะลอให้ไวรัสเดินทางไปถึงเมืองอื่นๆ ได้ช้าลง โมเดลของการศึกษาของพวกเขาแสดงให้เห็นชัด และด้วยเหตุนี้จึงเป็นการให้เวลาแก่เมืองอื่นๆ ในการเตรียมตัวและประกาศใช้มาตรการรับมือ

เวลานี้ประชากรโลกเกือบครึ่งหนึ่งกลังได้รับคำสั่งคำแนะนำให้อยู่บ้านเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และมาตรการล็อกดาวน์กำลังกลายเป็นมาตรการปฏิบัติปกติไปอย่างรวดเร็ว

ทว่าตอนที่ปักกิ่งสั่งปิดอู่ฮั่นทีแรกเมื่อ 2 เดือนก่อน การตัดสินใจนี้ถูกมองว่า เป็นการยกระดับความพยายามในการต่อสู้กับโรคระบาดนี้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ

กระนั้น ขณะที่จีนค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการปิดอู่ฮั่น และการดำเนินชีวิตของชาวเมืองกลับสู่ภาวะปกติมากขึ้น ก็ยังคงมีคำถามตามมาทั้งสำหรับจีนและเมืองอื่นๆ ทั่วโลกว่า จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปเมื่อประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างเสรีเหมือนเดิม

ฮว่ายอี๋ว์ เถียน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง นอร์มอล และเป็นอีกหนึ่งในผู้จัดทำรายงาน กล่าวว่า ขณะนี้ จีนตระหนักเป็นอันดีว่า ผู้พำนักในต่างแดนหรือผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากนอกประเทศนั้น อาจทำให้ไวรัสกลับมาระบาดรอบใหม่
กำลังโหลดความคิดเห็น