มาร์เกตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันทรงตัวในวันอังคาร (31 มี.ค.) ได้แรงหนุนจากข้อมูลกิจกรรมการผลิตของจีน และข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พูดคุยกับรัสเซียในความพยายามรักษาเสถียรภาพแก่ตลาดพลังงานและสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปัจจัยนี้ฉุดทองคำดิ่งแรง ส่วนวอลล์สตรีทร่วงหนัก หลักพบหลักฐานบ่งชี้ว่าไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ก่อความเสียหายแก่เศรษฐกิจอย่างมหาศาล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 39 เซ็นต์ ปิดที่ 20.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 2 เซ็นต์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 22.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของประเทศจีน (Manufacturing Purchasing Managers Index - PMI) อย่างเป็นทางการของจีน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 52.0 ในเดือนมีนาคม จากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 35.7 ในเดือนกุมภาพันธ์
ฟิน ฟลินน์ นักวิเคราะห์ด้านการตลาดอาวุโส ณ ไพรซ์ ฟิวเจอร์ส กรุ๊ป แสดงความคิดเห็นว่า “ข้อมูลนี้เพิ่มความหวังว่าโลกจะเริ่มฟื้นตัวจากไวรัสมรณะ นอกเหนือจากเสียงร่ำลือว่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และแรงกดดันจากรัฐบาลทรัมป์ที่มีต่อรัสเซีย ช่วยเพิ่มความหวังแก่ชาติผู้ผลิตว่าน้ำม้นอาจหลุดพ้นจากระดับต่ำสุด”
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้ต่อสายโทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเมื่อวันจันทร์ (30 มี.ค.) เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดล่าสุดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่และความพยายามในการต่อสู้กับมัน โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความสำคัญของการรักษาเสถียรภาพแก่ตลาดพลังงานและร่วมมือกันผ่านจี-20 ในการเอาชนะไวรัสโควิด-19 ให้ได้
ด้านราคาทองคำในวันอังคาร (31 มี.ค.) ดิ่งลงแรงกว่า 46 ดอลลาร์ ข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีเกินคาดในสหรัฐฯ เช่นเดียวกับกิจกรรมการผลิตในจีน ผลักนักลงทุนเมินสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 46.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,596.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (31 มี.ค.) ดิ่งลงหนักทั้ง 3 ดัชนี โดยดาวโจนส์ทำสถิติเป็นไตรมาสที่ปรับลดหนักหน่วงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1987 และเอสแอนด์พี 500 เป็นไตรมาสที่ร่วงแรงที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลก หลังพบหลักฐานมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าโรคระบาดใหญ่โควิด-19 ได้ก่อความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างเลวร้าย
ดาวโจนส์ ลดลง 410.32 จุด (1.84 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 21,917.16 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 42.06 จุด (1.60 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,584.59 จุด แนสแดค ลดลง 74.05 จุด (0.95 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,700.10 จุด
พิษจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกเหนือจะทำให้เหล่านักเศรษฐศาสตร์ปรับลดคาดการณ์การเติบโตปี 2020 แล้ว พวกนักลงทุนยังกังวลว่ามันอาจทำให้หลายบริษัทผิดนัดชำระหนี้, มีการปรับลดพนักงานจำนวนมาก และอาจถึงขั้นนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง
มาตรการทางการคลังและการเงินครั้งมโหฬารอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้ช่วยพยุงให้ตลาดทุนดีดตัวขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่เวลาผ่านไปไม่นาน มันไม่เพียงพอที่จะมอบความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน
