เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในสหรัฐฯ แซงหน้าจีน แหล่งอุบัติของโรคระบาดใหญ่เมื่อเดือนธันวาคม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ ในวันอังคาร (31 มี.ค.) ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งเหนือ 820,000 คน
มหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯแล้ว 3,415 คน มากกว่าตัวเลขที่รายงานอย่างเป็นทางการของจีน ซึ่งอยู่ที่ 3,309 คน
ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ พบว่า อิตาลี เป็นชาติที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุด 12,428 คน ตามมาด้วยสเปน 8,269 คน โดยมีสหรัฐฯ รั้งอันดับ 3
ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ พบด้วยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันในสหรัฐฯ อยู่ที่ 175,067 คน มากที่สุดในโลก ตามมาด้วยอิตาลี 105,792 คน, สเปน 94,417 คน และ จีน 82,278 คน
อันดับ 5 ได้แก่ เยอรมนี มีผู้ติดเชื้อ 68,180 คน และเสียชีวิต 682 คน ตามมาด้วย ฝรั่งเศส มีผู้ติดเชื้อ 45,232 คน และเสียชีวิต 3,032 คน
ในส่วนของฝรั่งเศสนั้น พบว่ายอดผู้เสียชีวิตในวันอังคาร (31 มี.ค.) ทำสถิติเป็นวันที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดนับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่แพร่ระบาดในประเทศแห่งนี้ โดยมีผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาล 499 คน ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตพุ่งเป็น 3,523 ศพ
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้เสียชีวิตของฝรั่งเศสนั้นนับเฉพาะบุคคลที่เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ยังไม่นับรวมคนที่เสียชีวิตในบ้านพักหรือในบ้านพักคนชรา
ส่วนประเทศอื่นๆ ที่น่าสนใจ ก็คือ ออสเตรีย ที่ยืนยันว่า กลายเป็นชาติลำดับที่ 13 ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเกินกว่า 10,000 คน โดยจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 10,088 คนและเสียชีวิต 128 คน
จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ พบว่า จนถึงตอนนี้ทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 800,000 คน ในนั้นเสียชีวิตมากกว่า 37,500 คน แต่ขณะเดียวกันก็มีผู้ป่วยเกือบ 165,000 คนที่ฟื้นไข้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในส่วนของเว็บไซต์ worldometers ระบุว่าเวลานี้ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งเหนือ 840,000 คน ในนั้นเสียชีวิต 41,401 ราย ส่วนผู้ป่วยที่ฟื้นไข้มีจำนวน 176,086 คน