เอเอฟพี - ด้วยที่มีประชาชนหลายล้านคนอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วฝรั่งเศสระหว่างวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ตำรวจที่แบกภาระหนักต้องหาวิธีการใหม่เพื่อรับประกันว่าพลเมืองจะอยู่แต่ในบ้านตามคำสั่ง นั่นก็คือใช้โดรนออกลาดตระเวนไปทั่วทุกหัวระแหง
เจ้าหน้าที่กำลังหันมาพึ่งโดรนมากขึ้นสำหรับลาดตระเวนตามท้องถนนสายต่างๆ, อุทยานและริมฝั่งแม่น้ำ และทางผู้ผลิตก็ยินดีเร่งกำลังผลิตโดรนออกมาให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ฤดูใบไม้ผลิคืบคลานเข้ามาแล้ว และสันนิษฐานว่ามันจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับเจ้าหน้าที่ในการโน้มน้าวให้ประชาชนทำตามคำสั่งล็อกดาวน์และใช้ชีวิตนอกบ้านให้น้อยลง ท่ามกลาสภาพอากาศดีเช่นนี้
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ คลิปวิดีโอหนึ่งเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวางบนสื่อสังคออนไลน์ เป็นภาของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถูกโดรนบินเข้าไปตักเตือนสั่งสอน และตำรวจหลายชาติในยุโรปได้หยิบเอาไอเดียมาและต้องการใช้ความหวั่นเกรงต่อตำรวจเป็นตัวส่งเสริมมาตรการจำกัดต่างๆทั้งในเบลเยียม, ฝรั่งเศสและสเปน
"ข้อความจากโดรนดึงดูดความสนใจจากผู้คนและกันไม่ให้ตำรวจเผชิญหน้ากับประชาชน" ความเห็นของสเตฟาน โมเรลลิ ผู้ร่วมก่อตั้ง Azur Drones ซึ่งพัฒนาระบบอากาศยานสอดแนมกึ่งอัตโนมัติ
เขาบอกว่าจีนยังได้ทดสอบโดรนติดเชื้ออุปกรณ์เซ็นเซอร์อินฟาเรดเพื่อวัดอุณหภูมิของประชาชนบนื้องถนนและตามระเบียงที่พัก ซึ่งด้วยตามท้องถนนต่างๆเกือบจะเวิ้งว้าง และไม่ค่อยมีอากาศยานอื่นๆบินมาเฉียดใกล้ เงื่อนไขเหล่านี้จึงเหมาะแก่การใช้โดรนอย่างที่สุด
อย่างไรก็ตามมีคนตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อเจอมาตรการตอบโต้อย่างการสวมหมวกและหน้ากาก แนวทางนี้จะยังคงได้ผลหรือไม่ "ส่วนตัวแล้ว ผมมองว่าหลักๆของมันคือการเพิ่มการกระตระหนักรู้ จากนั้นแล้วถึงจะใช้เป็นแนวทางในการควบคุม" บาสเตียง ลอรองต์ ประธานสหพันธ์ผู้ปฏิบัติการโดรนพลเรือนแห่งชาติกล่าว
ต่างจากจีน ฝรั่งเศสไม่อนุญาตให้โดรนใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า แม้โดรนของพวกเขามีศักยภาพกระทำการดังกล่าวจากระยะไกลห่างจากเป้าหมายหลายร้อยเมตรก็ตาม "คุณไม่จำเป็นต้องระบุตัวคนหนึ่งคนใด เพราะว่าโดรนสามารถช่วยตำรวจลาดตระเวนแพร่กระจายถ้อยคำหรืออกคำสั่งถึงบุคคลนั้นๆโดยตรง" ลอรองต์กล่าว