เอเจนซีส์ - ทรัมป์ที่ถูกสวดยับจากการเรียกโควิด-19 ว่า “ไวรัสจีน” กลับลำปกป้องชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ยันคนเหล่านี้ไม่ใช่ต้นเหตุการระบาด แต่เป็น “ประชาชนที่น่าทึ่ง” ที่สมควรได้รับการปกป้อง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวถึงประเด็นนี้ท่ามกลางรายงานข่าวที่เพิ่มมากขึ้นว่า ชุมชนคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียกำลังถูกโจมตีทั้งทางคำพูดและการทำร้ายร่างกาย
ไวรัสโคโรนายังคงระบาดหนักในอเมริกา มีผู้ติดเชื้อกว่า 43,000 คนที่ได้รับการยืนยัน และผู้เสียชีวิต 533 คน
ในการแถลงข่าวของทีมเฉพาะกิจรับมือไวรัสของทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ (23 มี.ค.) ทรัมป์กล่าวว่า อเมริกันชนทั้งหมดควรปกป้องชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียในประเทศและในทั่วโลก
“เพราะพวกเขาเป็นคนที่น่าทึ่งที่รักอเมริกา และไม่ได้เป็นตัวการแพร่ไวรัส แต่กำลังร่วมมือกับเราอย่างใกล้ชิดเพื่อต่อสู้กับไวรัส”
ต่อคำถามของผู้สื่อข่าวว่า ทำไมถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ทรัมป์ตอบว่า เพราะดูเหมือนตอนนี้จะมีการใช้ถ้อยคำโจมตีชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียในอเมริกา ซึ่งเขาไม่ชอบใจเลย
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ใช้คำว่า “ไวรัสจีน” โดยไม่สนใจการทักท้วงของผู้สื่อข่าวว่า เป็นการเหยียดเชื้อชาติและอาจทำให้ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียตกอยู่ในอันตราย โดยยืนยันว่า คำพูดของตนถูกต้องเนื่องจากโควิด-19 มีต้นกำเนิดในจีน
องค์การอนามัยโลก (ฮู) นั้นกำหนดเป็นนโยบายมาตั้งแต่ปี 2015 ว่า ไม่ควรตั้งชื่อเชื้อโรคติดต่อชนิดใหม่ๆ ด้วยชื่อของสถานที่หรือของชนชาติ ซึ่งกลายเป็นการตีตราบาปทางสังคมให้แก่ชุมชนเหล่านั้น
จูดี้ ชู ส.ส.จากรัฐแคลิฟอร์เนีย สังกัดพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นประธานกลุ่ม ส.ส.อเมริกันเชื้อสายเอเชีย-แปซิฟิก (คองเกรสชันแนล เอเชียน แปซิฟิก อเมริกัน คอคัส) ยังคงไม่พอใจกับคำแถลงล่าสุดของทรัมป์ โดยกล่าวว่า มันจะไม่มีความจำเป็นเลยถ้าเพียงแต่ทรัมป์และบรรดาผู้สนับสนุนไม่เผยแพร่แนวคิดเกลียดกลัวต่างชาติที่ทำให้คนจำนวนมากตกอยู่ในอันตราย
ทั้งนี้ มีคนตีความว่า การที่ทรัมป์เรียกโควิด-19 ว่า “ไวรัสจีน” เพราะต้องการเบี่ยงเบนเสียงวิจารณ์การบริหารจัดการวิกฤตในประเทศของตนเองไปโทษว่า เป็นปัจจัยภายนอก
ดังนั้น แม้ถูกตำหนิติเตียนจากจีนและชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย แต่ผู้นำสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงยังคงไม่เลิกใช้คำว่า “ไวรัสจีน” แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม การกระทำนี้อาจทำให้ทรัมป์แพ้ภัยตัวเองในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นปลายปีนี้ เนื่องจากชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียเป็นกลุ่มประชากรที่ขยายตัวเร็วที่สุดในอเมริกา และช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ชุมชนนี้เทคะแนนให้เดโมแครตมากขึ้น และยังมีอิทธิพลมากขึ้นในการเลือกตั้งระดับเขต
นอกจากนั้นแม้เมื่อวันจันทร์ ทรัมป์พยายามยกย่องชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย แต่ยังไม่วายถูกกล่าวหาว่า แทนที่จะซ่อมแซม “รั้ว” แห่งความสัมพันธ์ทางเชื้อชาติ ให้กลับแข็งแรงขึ้น เขายังคงทำลาย “รั้ว” ให้เสียหายหนักขึ้นอีก ด้วยการใช้คำพูดที่ยังมีแบ่งเขาแบ่งเรา เช่น “พวกเขา (ชาวอเมริกาเชื้อสายเอเชีย) ร่วมมือกับเราอย่างใกล้ชิดเพื่อต่อสู้กับไวรัส”