รอยเตอร์ - ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียในวันพฤหัสบดี (19 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ออกคำสั่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ให้ประชาชนทั่วทั้งรัฐราวๆ 40 ล้านคนอยู่แต่ในบ้านเป็นระยะเวลาหนึ่ง ในมาตรการที่ออกมารับมือกับโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว
คำสั่งของเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีผลบังคับใช้ในทันที ถือเป็นมาตรการควบคุมของรัฐบาลขนานใหญ่และครอบคลุมกว้างขวางที่สุดของสหรัฐฯ ในวิกฤตสาธารณสุขครั้งเลวร้ายอันเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่เขาคาดหมายว่าภายใน 8 สัปดาห์ จะมีผู้ติดเชื้อในแคลิฟอร์เนียกว่าครึ่งค่อนรัฐ
“เรามั่นใจว่าประชาชนแคลิฟอร์เนียจะปฏิบัติตาม” นิวซัม จากพรรคเดโมแครตซึ่งเป็นผู้ว่าการสมัยแรกของรัฐที่มีพลเมืองมากที่สุดของอเมริกา บอกระหว่างแถลงข่าวเมื่อช่วงเย็นวันพฤหัสบดี (19 มี.ค.)
นิวซัมระบุว่า คำสั่งนี้มีความจำเป็นหลังแบบจำลองของพวกผู้เชี่ยวชาญแสดงให้เห็นว่าประชากรของรัฐราวๆ 56% หรือ 25 ล้านคน จะติดเชื้อโควิด-19 ในอีก 8 สัปดาห์ ตัวเลขดังกล่าวจำเป็นต้องมีเตียงโรงพยาบาลรองรับคนไข้เกือบ 20,000 เตียง ซึ่งมันมากกว่าที่รัฐมี
จนถึงตอนนี้มีชาวแคลิฟอร์เนียมากกว่า 1,000 คนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ และเสียชีวิต 19 ราย มากสุดเป็นอันดับ 3 ในสหรัฐฯ เป็นรองเพียงนิวยอร์กและวอชิงตัน
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการนิวซัมบอกว่า คำสั่งอยู่บ้านมีข้อยกเว้นให้กับประชาชนที่ต้องเดินทางไปร้านขายของชำ, ร้านขาขาย, แพทย์, ร้านซักผ้าหยอดเหรียญและคนงานในภาคสาธารณูปโภคที่มีความสำคัญยิ่ง
ผู้ว่าการรัฐไม่ได้ระบุถึงวันสิ้นสุดคำสั่ง แต่บ่งชี้ว่ามันอาจจะกินเวลาอย่างน้อย 8 สัปดาห์
คำแถลงนี้สร้างความประหลาดใจและเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จาก เควิน แม็กคาร์ทีย์ แกนนำรีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่ให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ ว่าเขาไม่พอใจที่ผู้ว่าการรัฐไม่ปรึกษากับสมาชิกรัฐสภาในวอชิงตันก่อน
กระนั้นก็ตาม นิวซัมอ้างว่า เขาได้หยิบยกประเด็นนี้หารือกับแนนซี ปิโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งพรรคเดโมแครต จากนอร์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย แล้ว
