เอเจนซีส์ - รัฐบาลสิงคโปร์เตรียมปิดพรมแดนงดรับชาวต่างชาติ และไม่อนุญาตให้ผู้เดินทางมาเปลี่ยนเครื่องบินในประเทศตั้งแต่เวลา 23.59 น.วันนี้ (23 มี.ค.) เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังยอดผู้ติดเชื้อในสิงคโปร์ล่าสุดพุ่ง 455 ราย และมีผู้เสียชีวิต 2 รายแรกในประเทศ ขณะที่สายการบินยักษ์ใหญ่ ‘สิงคโปร์แอร์ไลน์ส’ ประกาศลดเที่ยวบิน 96% และมีแผนระดมเงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง โดยยอมรับว่าวิกฤตโควิด-19 ถือเป็น “ความท้าทายใหญ่หลวงที่สุด” เท่าที่บริษัทเคยเผชิญมา
กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ได้ออกประกาศห้ามผู้เดินทางที่ถือวีซ่าระยะสั้น รวมถึงแรงงานต่างชาติบางกลุ่มเข้าประเทศตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันนี้ (23) ซึ่งจะทำให้พลเมืองต่างชาติทุกประเทศไม่สามารถเข้าไปท่องเที่ยวหรือแม้กระทั่งเปลี่ยนเครื่องบินที่สิงคโปร์ได้ ขณะที่พวกแรงงานกึ่งทักษะ (semi-skilled workers) ก็จะไม่สามารถกลับเข้าไปทำงาน เว้นแต่จะอยู่ในภาคอุตสาหกรรมหรือบริการที่สำคัญจริงๆ เช่น ระบบสาธารณสุขและการคมนาคมขนส่ง เป็นต้น
ด้านสิงคโปร์แอร์ไลน์ส (SIA) ก็ประกาศมาตรการลดเที่ยวบินลง 96% และจะพักการใช้งานฝูงบินเกือบทั้งหมด
สายการบินทั่วโลกต่างเรียกร้องให้รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือ หลังคำสั่งห้ามเดินทางที่ทั่วโลกบังคับใช้ทำให้ผู้โดยสารหดหายจนต้องมีการสั่งกราวนด์ฝูงบิน และพนักงานนับหมื่นคนถูกบีบให้ลาหยุดโดยไม่รับค่าจ้างเพื่อความอยู่รอดของบริษัท
“คำสั่งนี้จะมีผลทำให้ SIA และซิลค์แอร์ต้องหยุดใช้เครื่องบินราว 138 ลำจากทั้งหมด 147 ลำ ซึ่งถือว่าความท้าทายใหญ่หลวงที่สุดที่ SIA Group เคยเผชิญมา” สิงคโปร์แอร์ไลน์สระบุในถ้อยแถลง
สิงคโปร์แอร์ไลน์สหันไปใช้วิธีกู้ยืมเงินในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาเพื่อตอบสนองความต้องการใช้เงินสด และอยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อระดมเงินทุนในอนาคต
ด้านสายการบินต้นทุนต่ำ Scoot ก็จำเป็นต้องลดเที่ยวบินลงเกือบทั้งหมด โดยจะระงับใช้ฝูงบิน 47 ลำจากทั้งหมดที่มีอยู่ 49 ลำ
“ยังไม่แน่ชัดว่า SIA Group จะกลับมาให้บริการได้ตามปกติเมื่อใด เนื่องจากไม่มีความแน่นอนว่าคำสั่งควบคุมพรมแดนเข้มงวดจะถูกใช้ไปถึงเมื่อไหร่” สิงคโปร์แอร์ไลน์ส ระบุ
ก่อนหน้านี้ สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงก็ได้ประกาศลดความจุผู้โดยสารเที่ยวบินลง 96% ระหว่างช่วงเดือน เม.ย.- พ.ค.
สิงคโปร์แอร์ไลน์สได้วางแผนเสริมสภาพคล่องทางการเงินและตัดลดรายจ่ายลง โดยจะขอให้ผู้ผลิตอากาศยานชะลอการส่งมอบเครื่องบิน รวมถึงมีมาตรการอื่นๆ เช่น ลดเงินเดือนผู้บริหาร เป็นต้น พร้อมย้ำถึงความสำคัญของการปกป้องตำแหน่งงาน โดยในปีงบประมาณที่สิ้นสุดเมื่อเดือน มี.ค. ปีที่แล้วพบว่าบริษัทมีการจ้างพนักงานอยู่มากกว่า 26,500 คน