รอยเตอร์ - จำเลย 4 คนในคดีรุมโทรมนักศึกษาและจับเหยื่อโยนทิ้งจากรถเมล์ในกรุงนิวเดลีเมื่อปี 2012 ถูกประหารชีวิตด้วยการ “แขวนคอ” แล้วในวันนี้ (20 มี.ค.) ซึ่งถือเป็นคดีช็อคโลกที่ตีแผ่ปัญหาอาชญากรรมต่อผู้หญิงในอินเดีย
เจ้าหน้าที่เรือนจำยืนยันว่า ชายทั้ง 4 คนถูกประหารชีวิตที่เรือนจำติฮาร์ (Tihar) ชานกรุงนิวเดลีเมื่อเวลารุ่งสางที่ผ่านมา
ทางการอินเดียได้ส่งตำรวจหลายร้อยนายไปควบคุมสถานการณ์ที่ด้านนอกเรือนจำ ซึ่งมีฝูงชนจำนวนมากมารอฉลองข่าวการตายของผู้ต้องหากลุ่มนี้ บ้างก็ชูป้ายข้อความที่เขียนว่า “ความยุติธรรมสำหรับผู้หญิง” และ “จงแขวนคอคนทำผิด”
เหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 16 ธ.ค. ปี 2012 ได้จุดกระแสประท้วงทั่วอินเดียและเรียกเสียงประณามจากทั่วโลก ขณะที่สื่อท้องถิ่นพากันตั้งฉายาให้เหยื่อสาวรายนี้ว่า “นิรภายา” (Nirbhaya) ซึ่งแปลว่า “ผู้ไร้ความกลัว” เนื่องจากกฎหมายอินเดียไม่อนุญาตให้เปิดเผยชื่อของเหยื่อข่มขืน
“วันนี้ความยุติธรรมได้เกิดขึ้นแล้วหลังผ่านมานานถึง 7 ปี” มารดาของนักศึกษาสาวให้สัมภาษณ์สื่อที่ด้านนอกเรือนจำ “ฉันขอชื่นชมคณะผู้พิพากษา และขอบคุณพระเจ้าที่รับฟังคำอ้อนวอนของเรา วิญญาณของลูกสาวฉันคงจะได้สงบสุขเสียที”
คดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 6 คน โดยผู้ต้องหาคนหนึ่งที่ชื่อ ราม ซิงห์ (Ram Singh) ฆ่าตัวตายในเรือนจำเมื่อเดือน มี.ค. ปี 2013 ส่วนอีกคนซึ่งอายุ 17 ปีขณะร่วมก่อเหตุได้รับการปล่อยตัวในปี 2015 หลังติดคุกอยู่ 3 ปี ซึ่งเป็นโทษสูงสุดสำหรับผู้กระทำความผิดที่เป็นเยาวชน
สำหรับจำเลยอีก 4 คนที่ถูกแขวนคอในวันนี้ (20) ได้แก่ วินัย ชาร์มา (Vinay Sharma) ครูสอนออกกำลังกาย, อักเชย์ ฐากูร (Akshay Thakur) พนักงานทำความสะอาดรถเมล์, ปาวัน คุปตะ (Pawan Gupta) พ่อค้าขายผลไม้ และ มูเกศ ซิงห์ (Mukesh Singh) ซึ่งไม่ได้ประกอบอาชีพ
จำเลยทั้ง 4 คนถูกศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิตเมื่อปี 2013 และต่อมาศาลสูงสุดอินเดียได้พิพากษายืนในปี 2017 โดยระบุว่าคดีนี้จัดเป็นอาชญากรรมร้ายแรงที่ “พบได้ยากมากที่สุด” ซึ่งเข้าเกณฑ์สำหรับการลงโทษประหาร
ประธานาธิบดีอินเดียปฏิเสธคำร้องขอลดหย่อนโทษจากจำเลยทั้ง 4 หลังจากที่ศาลสูงสุดสั่งยกคำร้องขอให้ทบทวนโทษประหารชีวิต
หลังถูกคนร้ายรุมโทรมบนรถเมล์ และถูกจับโยนลงจากรถที่กำลังแล่นเพื่อทิ้งให้ตายข้างถนน นักศึกษาวิชากายภาพบำบัดหญิงวัย 23 ปี ซึ่งร่างกายบอบช้ำสาหัสได้ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในสิงคโปร์ และเสียชีวิตลงหลังผ่านเหตุการณ์ไป 2 สัปดาห์
ความโกรธแค้นในสังคมอินเดียได้นำมาสู่การออกกฎหมายเพิ่มโทษผู้ก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งในบางกรณีอาจถึงขั้นประหารชีวิต
สถิติที่รัฐบาลอินเดียเผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้วระบุว่า ผู้หญิงในอินเดียถูกข่มขืนเฉลี่ย 1 คนในทุกๆ 15 นาทีเมื่อปี 2018 รวมทั้งสิ้นเกือบ 34,000 กรณี ทว่ามีเพียง 85% ที่นำไปสู่การตั้งข้อหา ขณะที่การพิพากษาลงโทษผู้กระทำผิดเกิดขึ้นเพียง 27% เท่านั้น
นักเคลื่อนไหวชี้ว่า สถิติของรัฐบาลอินเดียยังต่ำกว่าจำนวนคดีข่มขืนที่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากคนอินเดียหัวอนุรักษนิยมยังมองว่าการถูกล่วงละเมิดทางเพศแล้วไปแจ้งตำรวจเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ