เอเอฟพี - องค์การอนามัยโลกในวันพุธ (18 มี.ค.) ระบุ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เป็นศัตรูต่อมนุษยชาติ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งเกิน 200,000 คนแล้ว
“โคโรนาไวรัสได้ประจักษ์แก่เราในฐานะภัยคุกคามอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน” เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก บอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างแถลงข่าว พร้อมย้ำว่า “มันเป็นโอกาสอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน ที่เราจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อต่อสู้กับศัตรูร่วม ศัตรูของมนุษยชาติ”
ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกพุ่งแตะ 8,000 คน แต่เวลานี้ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่พบในยุโรป ซึ่งกลายมาเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดแห่งใหม่แทนที่เอเชีย นับตั้งแต่โควิด-19 อุบัติขึ้นครั้งแรกในจีนเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
เทดรอส เผยว่า องค์การอนามัยโลกพูดคุยในทุกๆ วัน กับบรรดารัฐมนตรีสาธารณสุข, ผู้นำประเทศต่างๆ, เจ้าหน้าที่สาธารณสุข, ผู้อำนวยการโรงพยาบาล, ผู้นำอุตสาหกรรมและอื่นๆ เพื่อช่วยพวกเขาในด้านการเตรียมพร้อมและวางลำดับความสำคัญ “อย่าทึกทักเอาว่าชุมชนของคุณจะไม่ได้รับผลกระทบ จงเตรียมพร้อมรับมืออย่างที่ควรจะทำ”
แม้องค์การอนามัยโลกเรียกร้องว่าทุกเคสต้องสงสัยควรได้รับการตรวจโลก แต่ในประเทศต่างๆ กรณีนี้แทบเป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ในเรื่องนี้ เทดรอส บอกว่า ยังมีอีกหลายมาตรการที่สามารถนำมาใช้เพื่อลดภาระของระบบสาธารณสุขและดึงโรคระบาดใหญ่นี้ให้อยู่ในภาวะที่สามารถจัดการได้ “มีความหวัง มีหลายอย่างอีกมากที่ทุกประเทศสามารถทำได้”
เขาเรียกร้องให้ทุกประเทศบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ในนั้นรวมถึงยกเลิกกิจกรรมกีฬา, คอนเสิร์ตและการรวมตัวของคนหมู่มาก เพื่อชะลอการแพร่เชื้อ
อย่างไรก็ตาม เทดรอส ยืนยันว่า ทางเดียวที่จะก้าวผ่านและควบคุมไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ก็คือประเทศต่างๆ ต้อง “กักกันโรค, ตรวจโรค, รักษาและติดตามเส้นทางการแพร่เชื้อ” อย่างเข้มข้น และถ้าประเทศใดก็ตามไม่ล้มเหลวในมาตรการข้างต้น “ห่วงโซ่การแพร่เชื้อจะแพร่กระจายอย่างเงียบๆ และโผล่ขึ้นมาอีกครั้งเมื่อมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมถูกยกเลิก”
ขณะเดียวกัน เทดรอส ยกย่องการทดลองวัคซีนครั้งแรกของโลกที่เริ่มขึ้นไม่ถึง 2 เดือนหลังจากจีนแบ่งปันลำดับพันธุกรรมของไวรัส โดยเรียกมันว่า “ความสำเร็จอันน่าทึ่ง”
สุดท้าย เทดรอส เรียกร้องทุกประเทศใช้แนวทางอย่างครอบคลุม โดยมีเป้าหมายชะลอการแพร่เชื้อและลดจำนวนผู้ติดเชื้อให้ต่ำที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ (flattening the curve) “แนวทางนี้จะช่วยปกป้องชีวิตและซื้อเวลาให้กับการพัฒนาวัคซีนและวิธีรักษา”