เอเอฟพี – จีน-อเมริกาเรียกร้องเลิกสาดโคลนใส่กันเรื่องโควิด-19 ที่ล่าสุดทรัมป์เรียกว่า “ไวรัสจีน” และก่อนหน้านี้ปักกิ่งปล่อยข้อมูลว่อนเน็ตชวนให้คิดว่า กองทัพอเมริกันเป็นฝ่ายเอาไวรัสโคโรนาไปแพร่ในอู่ฮั่น
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวิตเมื่อคืนวันจันทร์ (16 มี.ค.) ว่า อเมริกาจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่อุตสาหกรรมต่างๆ เช่น สายการบิน ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก “ไวรัสจีน”
ก่อนหน้านี้บรรดาลิ่วล้อของผู้นำสหรัฐฯ มักเรียกโรคระบาดที่กำลังเขย่าขวัญทั่วโลกว่า “ไวรัสโคโรนาจีน” แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ทรัมป์หลุดปากคำนี้ออกมา และทำให้มีเสียงวิจารณ์ทันควันว่า เป็นการเหยียดเชื้อชาติที่อาจนำไปสู่การแสดงปฏิกิริยาต่อต้านรุนแรงต่อชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย
บิลล์ เดอ บลาสิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ซึ่งอยู่ในรัฐที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนารุนแรงที่สุดแห่งหนึ่งในอเมริกา ทวิตว่า ชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ซึ่งเป็นประชาชนที่ทรัมป์ต้องดูแลเช่นเดียวกัน ได้รับผลกระทบอยู่แล้วและไม่อยากให้ทรัมป์สุมไฟให้สถานการณ์เลวร้ายกว่าเดิมด้วยถ้อยคำที่ไม่มีเหตุผล
ความขัดแย้งครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่องค์การอนามัยโลก (ฮู) ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (15 มี.ค.) ว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่และผู้เสียชีวิตในประเทศอื่นๆ มากกว่าในจีน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดเมื่อปลายปีที่แล้ว
ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา ยังโทรหาหยาง เจียฉือ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน เพื่อระบายความไม่พอใจที่ปักกิ่งใช้ช่องทางอย่างเป็นทางการเพื่อ “โยนบาปเรื่องโควิด-19 ให้อเมริกา”
พอมเพโอย้ำว่า ขณะนี้ไม่ใช่เวลาในการปล่อยข้อมูลเท็จและข่าวลือพิลึกพิลั่น แต่เป็นเวลาที่ทุกประเทศต้องร่วมมือกันต่อสู้กับภัยคุกคามที่มีร่วมกัน
กระนั้น พอมเพโอเองกลับพยายามโยงโรคระบาดใหญ่ทั่วโลกขณะนี้กับจีน โดยมักเรียกไวรัสนี้ว่า “ไวรัสอู่ฮั่น” ทั้งที่บุคลากรทางการแพทย์แนะนำว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการทำลายชื่อเสียงของอู่ฮั่นและจีนก็ตาม
ทางด้านหยางตอกกลับเสียงเข้มว่า แผนการของวอชิงตันในการป้ายสีจีนจะไม่มีวันสำเร็จ และตั้งข้อสังเกตว่า นักการเมืองอเมริกันบางคนชอบให้ร้ายจีนและความพยายามของจีนในการต่อสู้กับโรคระบาดบ่อยๆ ทั้งยังว่า พฤติกรรมดังกล่าวสร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อชาวจีน
สำนักข่าวซินหวาเพิ่มเติมว่า หยางเรียกร้องให้อเมริกาแก้ไขพฤติกรรมผิดๆ และหยุดกล่าวหาจีนโดยไม่มีหลักฐานทันที
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 มี.ค.) กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เรียกชุย เทียนข่าย เอกอัครราชทูตจีน เข้าพบเพื่อประณามการที่ปักกิ่งโหมกระพือทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดซึ่งได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในโซเชียลมีเดีย
กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่จ้าว หลี่เจียน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ทวิตทั้งภาษาจีนกลางและอังกฤษเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในทำนองว่า “ผู้ป่วยต้นตอ” ของการระบาดครั้งนี้อาจมาจากอเมริกา ไม่ใช่อู่ฮั่น
ทวิตดังกล่าวระบุว่า อาจเป็นกองทัพอเมริกาที่นำโรคดังกล่าวไปแพร่ในอู่ฮั่น พร้อมเรียกร้องให้อเมริกาอธิบายเรื่องนี้
ขณะเดียวกัน ทรัมป์กำลังถูกวิจารณ์หนักเรื่องการรับมือการระบาดของโควิด-19 เหล่าพันธมิตรจึงพยายามสร้างภาพว่า ไวรัสนี้เป็นโรคที่แพร่มาจากคนต่างชาติ
หนึ่งในนั้นคือ ทอม คอตตอน วุฒิสมาชิกรีพับลิกันที่มักพูดถึงโรคนี้ว่า “ไวรัสโคโรนาจีน” ล่าสุดยังประกาศว่า อเมริกาจะหาตัวคนที่ทำให้ทั่วโลกติดเชื้อมารับผิดชอบ
แม้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในจีนอยู่ภายใต้การควบคุมแล้วเป็นส่วนใหญ่ แต่ทำทั่วโลกยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้กว่า 7,000 คน และการใช้ชีวิตประจำวันของคนตะวันตกชะงักงันอย่างรุนแรง
โรคระบาดนี้ยังเกิดขึ้นขณะที่จีนและอเมริกาขัดแย้งกันอย่างหนักหลายด้าน ตั้งแต่สิทธิมนุษยชนจนถึงการสร้างสมแสนยานุภาพทางทหารของปักกิ่ง