เอเอฟพี - รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมเรียกทูตญี่ปุ่นเข้าพบเพื่อประท้วงแผนการที่ ‘ไร้เหตุผล’ (irrational) หลังจากที่โตเกียวประกาศกักผู้เดินทางจากจีนและเกาหลีใต้เป็นเวลา 14 วันทันทีที่เข้าประเทศเพื่อสกัดการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ‘โควิด-19’
ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดในเชิงเศรษฐกิจ และยังเป็นชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ ด้วยกันทั้งคู่ ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศยังคงลุ่มๆ ดอนๆ จากข้อพิพาทเก่าแก่ตั้งแต่ยุคที่กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นเข้ายึดครองคาบสมุทรเกาหลีเมื่อช่วงปี 1910-1945
นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น ประกาศวานนี้ (5 มี.ค.) ว่าชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากจีนและเกาหลีใต้จะต้องถูกกักกันโรคเป็นเวลา 14 วันทันทีที่มาถึงญี่ปุ่น
กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้เรียกร้องให้โตเกียวทบทวนมาตรการดังกล่าวซึ่ง “ปราศจากเหตุผลและรุนแรงเกินเหตุ” และเตรียมเรียกเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นเข้าพบเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการ
“เราอดไม่ได้จริงๆ ที่จะตั้งคำถามว่าญี่ปุ่นมีแรงจูงใจอื่นๆ ที่มากไปกว่าการควบคุมไวรัสหรือไม่”
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ยังขู่ใช้มาตรการตอบโต้ โดยระบุว่า “กำลังพิจารณาทุกทางเลือก” เพื่อปกป้องสวัสดิภาพของพลเมืองเกาหลีใต้
แดนโสมขาวกลายเป็นประเทศที่เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดหนักสุดรองจากจีนแผ่นดินใหญ่ โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ (KCDC) รายงานล่าสุดวันนี้ (6) ว่ายอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศขยับขึ้นเป็น 6,284 คน และพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 7 รวมเป็น 42 คน
สำหรับญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อในประเทศที่ยืนยันแล้ว 360 คน (ไม่รวมผู้ป่วยจากเรือสำราญไดมอนด์ปรินเซส) ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 6 คน
40 ประเทศและดินแดนทั่วโลกได้ประกาศแบนชาวต่างชาติที่เพิ่งเดินทางไปเยือนเกาหลีใต้ ขณะที่กว่า 20 ประเทศบังคับกักโรค ซึ่งรวมถึงหลายภูมิภาคของจีน
พัค ชุล-ฮยุน คอลัมนิสต์ชาวโสมขาวที่ทำงานอยู่ในกรุงโตเกียวยอมรับว่า มาตรการกักกันโรคของญี่ปุ่น “กระทบชาวเกาหลีใต้หลายพันคน” และตัวเขาเองก็ตัดสินใจยกเลิกการเดินทางไปกรุงโซล 3 วัน เนื่องจากไม่ต้องการถูกกักโรค
“คนเกาหลีใต้เดินทางมาโตเกียววันละหลายพันคน และผมพนันได้เลยว่าส่วนใหญ่คงตัดสินใจยกเลิกการเดินทาง” พัค กล่าว พร้อมวิจารณ์คำสั่งของรัฐบาลญี่ปุ่นว่าเป็นแค่การ “สร้างภาพ” ก่อนที่โตเกียวโอลิมปิก 2020 จะเริ่มขึ้น
การแพร่ระบาดกว่า 90% ในเกาหลีใต้ยังคงกระจุกตัวอยู่ที่เมืองแทกู (Daegu) ซึ่งพบผู้ป่วยแล้วกว่า 4,600 คน รวมถึงในจังหวัดคยองซังเหนือที่อยู่ติดกัน
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงกับโบสถ์ลัทธิชินชอนจี (Shincheonji) ซึ่งมีสาวกหญิงวัย 61 ปี รายหนึ่งแสดงอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. แต่ยังคงไปร่วมพิธีกรรมในโบสถ์อย่างน้อย 4 ครั้ง ก่อนที่จะได้รับยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19