เอเอฟพี/รอยเตอร์ - อิตาลีในวันพฤหัสบดี (5 มี.ค.) รายงานพบผู้เสียชีวิตรายใหม่จากโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ 41 ศพ ถือเป็นการตายวันเดียวมากที่สุดจนถึงตอนนี้ แซงหน้าอิหร่าน กลายเป็นชาติที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนักหน่วงที่สุดในโลกนอกเหนือจากจีน ในขณะที่อังกฤษพบผู้เสียชีวิตรายแรกของประเทศ กระตุ้นให้รัฐบาลเตรียมออกมาตรการต่างๆ รับมือ
ตัวเลขผู้เสียชีวิตในวันพฤหัสบดี (5 มี.ค.) ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตในอิตาลี ชาติที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากที่สุดในยุโรป เพิ่มเป็น 148 ศพ ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันอยู่ที่ 769 ราย สูงสุดตั้งแต่ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่เริ่มแพร่ระบาดในประเทศแห่งนี้เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 3,858 คน ขณะเดียวกันจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องเข้ารักษาตัวในหออภิบาลผู้ป่วยวิกฤต (ไอซียู) ก็เพิ่มจาก 295 คนเป็น 351 คน
จากข้อมูลล่าสุดนั่นหมายความว่า อิตาลีกลายเป็นชาติที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากจีน ศูนย์กลางของการแพร่ระบาด ดินแดนที่พบเชื้อไวรัสมรณะนี้เป็นครั้งแรกเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา และทั่วทุกแคว้นของอิตาลีล้วนพบผู้ติดเชื้อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อวันพุธ (4 มี.ค.) รัฐบาลอิตาลีเพิ่งแถลงมาตรการต่างๆ นานาอย่างที่ไม่เคยบังคับใช้มาก่อน ในความพยายามชะลอการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว ในนั้นรวมถึงปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทุกแห่งไปจนถึงวันที่ 15 มีนาคม เพื่อกันนักเรียนและนักศึกษากว่า 8.5 ล้านคนให้อยู่แต่ที่บ้าน
นอกจากนี้แล้ว เกมการแข่งขันฟุตบอลและกิจกรรมกีฬาอื่นๆ ก็จะต้องเล่นโดยไม่อนุญาตให้แฟนๆ เข้าชมเป็นเวลา 1 เดือน ขณะที่ 11 หมู่บ้านซึ่งมีประชากรรวมกันราว 50,000 คนยังต้องอยู่ภายใต้มาตรการกักกันโรคเป็นเวลา 2 สัปดาห์
ในวันพฤหัสบดี (5 มี.ค.) รัฐบาลได้เปิดเผยแผนกอบกู้เศรษฐกิจ 7,500 ล้านยูโร เพื่อจัดการกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ “เบื้องต้นแพกเกจกระตุ้นเศรษฐกิจจะถูกใช้สำหรับเพิ่มทรัพยากรด้านบริการสาธารณสุข, ปกป้องพลเรือนและบังคับใช้กฎหมาย” โรแบร์โต กูอัลติเอรี รัฐมนตรีคลังอิตาลีกล่าว
อีกด้านหนึ่ง อังกฤษ ชาติร่วมกลุ่มจี 7 ของอิตาลี รายงานพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เป็นรายแรกของประเทศ ในขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 115 คน “ผมเสียใจที่ต้องแจ้งข่าวว่าคนไข้รายหนึ่งในอังกฤษซึ่งมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก เสียชีวิตแล้ว” คริส วิทตี หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของอังกฤษ กล่าว พร้อมระบุว่าเหยื่อเป็นคนชราและมีปัญหาด้านสุขภาพภาพอยู่ก่อนแล้ว
เขาบอกต่อว่าคนไข้รายนี้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลรอยัล เบิร์กเชียร์ ในเรดดิ้ง ทางตะวันตกของลอนดอน และเชื่อว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษ
ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นในขณะที่ยอดรวมผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันในอังกฤษ เพิ่มเป็น 115 คน หลังมีคนไข้เพิ่มเติมอีก 25 คนที่มีผลตรวจเชื้อโควิด-19 ออกมาเป็นบวก โดย 17 คนในนั้น เพิ่งเดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยง
“ส่วนอีก 8 คนที่พบเชื้อในอังกฤษ ยังไม่ชัดเจนว่าพวกเขาติดเชื้อโดยตรงหรือโดยอ้อมจากบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่เพิ่งเดินทางกลับจากต่างแดนเมื่อเร็วๆ นี้ เรากำลังตรวจสอบและเริ่มติดตามบุคคลสัมผัสใกล้ชิดแล้ว” วิทตีกล่าว
เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษได้เปิดเผยแผนฉุกเฉินต่างๆ ในความเป็นไปได้ที่จะใช้ควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส ที่มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้วมากกว่า 96,000 คน ในนั้นเสียชีวิตกว่า 3,300 ราย
วิทตี และ แพทริก วัลแลนซ์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของอังกฤษ เข้ารายงานสรุปแก่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน หลังประชุมเกี่ยวกับแผนฉุกเฉิน
โฆษกของจอห์นสันบอกว่า “จะมีการตัดสินใจอย่างเร็วที่สุดในช่วงต้นสัปดาห์หน้า สำหรับประกาศมาตรการบางอย่างเพื่อชะลอการแพร่ระบาดของไวรัส” ทั้งนี้ มาตรการที่จะนำมาใช้เมื่อครั้งการแพร่ระบาดเข้าสู่ช่วงพีคสุด ในนั้นรวมถึงขอให้ประชาชนทำงานจากที่บ้าน ลดการรวมตัวของคนหมู่มาก อย่างเช่นการแข่งขันฟุตบอลและปิดโรงเรียน
ส่วนฝรั่งเศส อีกหนึ่งชาติสมาชิกจี 7 รายงานมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มเติมอีก 3 รายในวันพฤหัสบดี(5มี.ค.) ส่งผลให้ยอดเหยื่อสะสมเพิ่มเป็น 7 ศพ ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งจาก 138 คน เป็น 423 คน
เจอโรม โซโลมอน ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขบอกว่า ในบรรดาผู้ติดเชื้อ มีอยู่ 23 รายที่อยู่ในอาการสาหัส ขณะที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครอง กล่าวในวิดีโอที่เผยแพร่บนเว็บไวต์ประธานาธิบดี ระบุว่าตอนนี้ดูเหมือนเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ว่าการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสจะพัฒนาการเข้าสู่การระบาดใหญ่ (pandemic)