xs
xsm
sm
md
lg

ยุ่งแล้ว!ผลวิจัยชี้มาตรการคัดกรองโควิด-19ทั่วโลกล้มเหลว ตรวจไม่พบผู้ติดเชื้อเกินครึ่ง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี - ความพยายามคัดกรองของทั่วโลกเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ดูเหมือนจะล้มเหลว จากผลวิจัยใหม่ที่เตือนว่าแม้แต่การคัดกรองที่ดีที่สุดกับผู้โดยสารที่สัญจรทางอากาศ ก็จะพลาดไม่พบผู้ติดเชื้อมากกว่าครึ่ง

มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้วมากกว่า 80,000 คนทั่วโลก นับตั้งแต่มันปรากฏตัวในทางภาคกลางของประเทศจีนเมื่อเดือนที่แล้ว

ผู้โดยสารที่สัญจรทางอากาศจะถูกคัดกรองโดยเครื่องตรวจอุณหภูมิและกรอกแบบสอบถามในมาตรการตอบสนอง แต่ในวันพุธ(26ก.พ.) องค์การอนามัยโลก(WHO) ระบุเป็นครั้งแรกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อนอกจีนแผ่นดินใหญ่แซงหน้าจำนวนผู้ติดเชื้อในแดนมังกรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในผลการศึกษาหนึ่งที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร eLife พวกนักวิจัยในสหรัฐฯและอังกฤษใช้โมเดลคอมพิวเตอร์พยากรณ์ผลกระทบของมาตรการคัดกรอง บนพื้นฐานของข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับพฤติกรรมของโควิด-19 และระยะเวลาที่คนไข้แสดงอาการต่างๆออกมา โดยพบว่ามาตรการคัดกรองพลาดผู้ติดเชื้อจำนวนมากโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และพวกเขาเรียกร้องให้แต่ละชาติทบทวนแนวทางการคัดกรองผู้โดยสาร

"หากใครบางคนไม่รู้ตัวว่าตนเองติดเชื้อ และยังไม่แสดงอาการ เมื่อนั้นโดยพื้นฐานแล้ว พวกเขาจะไม่ถูกตรวจพบ" เคทลีน กอสติก นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยชิคาโก ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เขียนบอกกับเอเอฟพี "เราประมาณการว่าโดยเฉลี่ยมาตรการคัดกรองจะไม่พบนักเดินทางที่ติดเชื้อราวๆ 2 ใน 3"

กอสติกเน้นว่าการตรวจไม่พบไม่ใช้ผลลัพธ์จากความผิดพลาดของมนุษย์ แต่มันเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อันเนื่องจากพฤติกรรมของไวรัส

องค์การอนามัยโลกบอกว่าระยะฟักตัวของโควิด-19 หรือระยะเวลาระหว่างที่คนไข้คนหนึ่งๆติดไวรัสกับแสดงอาการ อยู่ที่ราวๆ 10-14 วัน นั่นจึงหมายความว่าคนไข้อาจแพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัว ส่งผลให้การตรวจอุณหภูมิเพื่อหาผู้ที่มีไข้หรือแม้แต่การเข้ารายงานตัวด้วยตนเองว่าติดเชื้อ เป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์

พวกนักเดินทางจะถูกแบ่งแยกเป็น 1 ใน 4 ประเภท ประกอบด้วย 1.มีอาการแต่ไม่ทราบว่าติดเชื้อ, 2.ทราบว่าติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ 3.ทั้งทราบและแสดงอาการติดเชื้อ 4.ทั้งไม่แสดงอาการและไม่ทราบว่าติดเชื้อ

กอสติกและทีมงานพบว่าประเภทสุดท้ายนั้นวิธีคัดกรองธรรมดาทั่วไปไม่สามารถตรวจพบโดยสิ้นเชิง ส่วนประเภทที่ 3 นั้น นักเดินทางเหล่านั้นมักต้องมีอาการไอเสียก่อนถึงจะเข้ารายงานตัว

แม้กระทั่งในข้อสมมุติฐานในกรณีที่ดีที่สุด มีผู้โดยสารเพียง 1 คนใน 20 คนที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ ในโมเดลนี้เท่ากับว่ามาตรการคัดกรองจะพลาดผู้โดยสารที่ติดเชื้อถึง 53% "คนที่มีผลตรวจออกมาเป็นบวกระหว่างถูกกักโรค ถือเป็นสัดส่วนจำนวนมาก พวกเขาไม่แสดงอาการใดๆที่สามารถตรวจพบได้ในตอนวินิจฉัยโรค" กอสติกกล่าว

"บางคนไม่แสดงอาการใดๆเลย บางคนจะมีอาการในอีกหลายวันต่อมา จากทั้งสองอย่าง เรื่องราวเหล่านี้เป็นตัวอย่างของความยากลำบากในการคัดกรอง ซึ่งมีเป้าหมายตรวจพบผู้ติดเชื้อตั้งแต่เนิ่นๆโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่คนจำนวนมากไม่แสดงอาการที่สามารถตรวจพบใดๆในขั้นต้นของการติดเชื้อ"

กอสติค เตือนว่าโลกอาจอยู่ในจุดหักเห จดที่มาตรการคัดกรองหรือแม้แต่มาตรการกักกันโรคต่างๆแบบเดียวกับที่พบเห็นในเมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางของการแพร่ระบาด ไม่ได้ผลอีกต่อไป "รัฐบาลชาติต่างๆควรเริ่มคิดเกี่ยวกับการระบาดใหญ่ไปทุกทวีปทั่วโลก (Pandemic)กันได้แล้ว"
กำลังโหลดความคิดเห็น