xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาล ขออย่าปกปิดไปเที่ยวประเทศเสี่ยง ย้ำโควิด-19 ไทยยังไม่ระบาดระดับ 3

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
"ประยุทธ์" ห่วงการปกปิดข้อมูลเดินทางประเทศกลุ่มเสี่ยง ขอร่วมกันรับผิดชอบและจำกัดวงการแพร่เชื้อ โฆษกย้ำไทยยังไม่เข้าสู่การระบาดโควิด-19 ระยะ 3 ปัดปกปิดตัวเลขผู้ติดเชื้อ วอนปชช.กลับจากประเทศเสี่ยง มีอาการผิดปกติ รีบพบแพทย์

วันนี้ (26ก.พ.) ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ห่วงใยเรื่องการปกปิดข้อมูลการเดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยขอความร่วมมือประชาชนทุกคนร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคม และจำกัดวงการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 โดยให้ข้อมูลกับคณะแพทย์และเจ้าหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นแล้วก็ขอให้เป็นบทเรียนที่ต้องช่วยกัน แต่อย่าไปซ้ำเติมกัน ควรใช้โอกาสนี้ให้กำลังใจและหาทางป้องกันแก้ไขปัญหาจะดีกว่า

สำหรับข้อแนะนำของผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง หากมีไข้ ไอจาม มีน้ำมูก หรือสงสัยเรื่องอาการของตนเอง ขอให้รีบไปพบแพทย์ทันทีโดยสวมหน้ากากอนามัยตั้งแต่ออกจากบ้าน เมื่อแพทย์วินิจฉัยพบว่ามีความเสี่ยงและจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อ ผู้รับบริการอาจเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ โดยขอให้ตรวจสอบกับทางโรงพยาบาลทั้งของรัฐและเอกชน

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องได้เร่งติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น และผู้โดยสารที่เดินทางด้วยเครื่องบินลำเดียวกันเพื่อให้มารับการตรวจ โดยขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ทุกคน พร้อมทั้งยืนยันด้วยว่าที่ผ่านมาได้รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้ออย่างเปิดเผยมาโดยตลอด และมาตรการป้องกันของไทยก็ได้รับคำชมเชยจากนานาประเทศด้วย

ด้านนางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ใน ไทยยังอยู่ระยะที่ 2 ไม่มีผู้ป่วยรายใดเป็น Super Spreader รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขยังเฝ้าระวังและยกระดับการคัดกรอง พร้อมเร่งทำงานเชิงรุก โดยคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติได้ประกาศกำหนดให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นโรคติดต่ออันตราย อันดับที่ 14 ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เพื่อให้อำนาจตามกฎหมายกับเจ้าหน้าในการตรวจและสอบสวนโรค ยกระดับการคัดกรอง ขยายประเทศเสี่ยง พื้นที่เสี่ยง และกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้การตรวจพบทำได้เร็วยิ่งขึ้น สำหรับข้อสงสัยเกี่ยวกับยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อในไทยนั้น ขอยืนยันว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานตัวเลขเปิดเผย ตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริงทางการแพทย์ นับตั้งแต่มีการพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาในไทยรายแรกนอกประเทศจีน และมีมาตรการคัดกรองตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม เป็นต้น ซึ่งมาตรการการป้องกันของไทยยังได้รับการชื่นชมจากนานาประเทศ

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังได้วอนขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ช่วยพิจารณาอย่างรอบด้าน อย่าเห็นประโยชน์จากโปรโมชั่นท่องเที่ยวราคาถูกในขณะนี้ ขอให้เลื่อนหรืองดเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงที่มีการระบาดของโรคในช่วงนี้ หากจำเป็นต้องเดินทางไปก็ให้ปฏิบัติตนด้วยความระมัดระวัง สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ เมื่อกลับมาให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตัวเอง 14 วัน หากมีไข้ ไอผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์พร้อมเปิดเผยประวัติการเดินทาง สำหรับประชาชนในประเทศก็ต้องไม่ลืม “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่อยู่เสมอ พร้อมให้ความมั่นใจว่า ”ไทยยังอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมโรคได้ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก แต่เราจะต้องไม่ประมาท และจะต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนทุกคน”

น.ส.ไตรศุลี กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีวิธีป้องกันเชื้อไวรัสจากการอยู่ร่วมกันของคนหมู่มาก ประกอบด้วย 1.งดเข้าร่วมกิจกรรมหากมีอาการป่วยของโรคระบบทางเดินหายใจ 2.จัดเตรียมหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ เจลล้างมือสำหรับใช้เองให้เพียงพอ 3.หากสังเกตเห็นผู้ร่วมกิจกรรมมีอาการไอ ไข้ จาม มีน้ำมูก ควรแนะนำให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ ณ จุดพยาบาลแต่ละแห่ง และ 4.หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้มีอาการป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจที่ไม่ป้องกันตัวเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น