รอยเตอร์/เอเอฟพี - หลังจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เรียกร้องท้องที่ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำเรื่องโรคระบาดให้ฟื้นฟูกิจกรรมทางเศรษฐกิจ หลายส่วนของจีนก็ประกาศในวันจันทร์ (24 ก.พ.) ผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดเรื่องการคมนาคมขนส่งและการเดินทาง ขณะที่รายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา “โควิด-19” รายใหม่ๆ นอกมณฑลหูเป่ย ซึ่งเป็นศูนย์กลางโรคติดต่อคราวนี้ ต่างตกลงมาสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน อย่างไรก็ดี ปักกิ่งยังคงตัดสินใจให้เลื่อนการเปิดประชุมเต็มคณะประจำปีของรัฐสภาออกไป
ในมณฑลและเขตปกครองเทียบเท่ามณฑลรวมทั้งสิ้น 31 แห่งของจีน ปรากฏว่ามีอยู่ 24 แห่งซึ่งในจำนวนนี้รวมถึง ปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้ ที่ต่างมีฐานะเป็นนครเทียบเท่ามณฑล รายงานในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) ว่า ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เลย ถือเป็นสถานการณ์โรคที่ดูสดใสที่สุด นับตั้งแต่ที่ทางการสาธารณสุขของแดนมังกรเริ่มต้นเผยแพร่ตัวเลขระดับชาติเป็นรายวันเมื่อวันที่ 20 มกราคม เป็นต้นมา
ขณะที่อีก 6 เขตปกครองระดับมณฑลและเทียบเท่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวมกันแค่เพียง 11 ราย สำหรับหูเป่ย จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ก็ลดลงเหลือ 398 ราย จาก 630 รายในวันก่อนหน้า
เมื่อวันอาทิตย์ (23) ประธานาธิบดีสีได้กล่าวยกย่องชมเชยแนวโน้มเช่นนี้ พร้อมกับเรียกร้องว่า พวกมณฑลซึ่งมีความเสี่ยงต่ำควรหันไปโฟกัสที่งานฟื้นฟูและการผลิตในลักษณะรอบด้าน ขณะที่พวกมณฑลซึ่งมีความเสี่ยงระดับกลางควรตั้งจุดมุ่งหมายไปที่การฟื้นฟูงานต่างๆ ขึ้นมาใหม่อย่างเป็นระเบียบ ส่วนเขตที่มีความเสี่ยงสูงยังต้องเน้นหนักที่การควบคุมโรคติดต่อ
ในวันจันทร์ (24) มณฑลหวินหนาน (ยุนนาน), ซานซี และกุ้ยโจว ต่างประกาศลดมาตรการรับมือฉุกเฉินของพวกตนลงมาจากระดับร้ายแรงที่สุด เท่ากับผ่อนคลายข้อจำกัดในเรื่องการคมนาคมขนส่งและการเดินทาง ลงมาอยู่ระดับเดียวกับที่ใช้ในมณฑลกานซู่ และ เหลียวหนิง
ตามพื้นที่อื่นๆ ที่อยู่นอกมณฑลหูเป่ย พวกโรงงาน, ธุรกิจต่างๆ, และสถานที่ก่อสร้างทั้งหลาย ต่างค่อยๆ เริ่มเปิดดำเนินงานกันใหม่แล้ว ถึงแม้การทำงานยังคงไม่ต่อเนื่องโดยมีการหยุดพักเป็นครั้งคราว
เวลานี้บรรดาคนงานที่ทำงานแถวหน้าจำนวนมากยังไม่ได้เดินทางกลับจากการไปเยี่ยมบ้านในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่มีการขยายเวลาออกไปเป็นพิเศษ ขณะที่สายโซ่อุปทานก็ยังไม่ได้ฟื้นตัวเต็มที่ และภาวะขาดแคลนวัตถุดิบและส่วนประกอบยังคงปรากฏให้เห็น เจ้าหน้าที่รัฐบาลผู้หนึ่งจากเจ้อเจียง หนึ่งในมณฑลที่มีผลผลิตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดของจีน กล่าวในการแถลงสรุปต่อสื่อมวลชน
ยิ่งพวกธุรกิจขนาดเล็กๆ แล้ว ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเปิดทำการได้ และกำลังต่อสู้กัปัญหาเรื่องสายโซ่อุปทาน โดยที่ เถียน อี้ว์หลง โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรมจีนแถลงในวันจันทร์ว่า แม้บางอุตสาหกรรมสามารถกลับดำเนินงานได้แล้ว ทว่าวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เพียงแค่ 3 ใน 10 เท่านั้นจึงเปิดทำงานได้ใหม่
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า การคมนาคมขนส่งที่ยังอยู่ในภาวะติดขัด ก็ทำให้คนงานเดินทางกลับมายังที่ทำงานได้ลำบาก รวมทั้งขัดขวางการขนส่งพวกวัตถุดิบ
พวกอุตสาหกรรมสำคัญๆ ที่ครอบงำโดยกิจการขนาดใหญ่ๆ ดูเหมือนจะฟื้นตัวได้อย่างเข้มแข็งรวดเร็วกว่า
ชง เหลียง เจ้าหน้าที่ในสำนักงานวางแผนเศรษฐกิจระดับท็อปของจีน แถลงว่า อุตสาหกรรมเหล็กกล้ากำลังดำเนินงานได้ในระดับเกือบๆ 70% ของศักยภาพที่มีอยู่ ส่วนการขนส่งทางรางรถไฟก็เกือบกลับคืนสู่ปกติแล้ว
อย่างไรก็ดี พวกธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมนั้นคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60% ของเศรษฐกิจจีน และเป็นภาคที่สำคัญซึ่งกำลังย่ำแย่จากผลกระทบของวิกฤตการณ์สาธารณสุขคราวนี้
อีโคโนมิก เดลี่ ซึ่งเป็นสื่อของรัฐรายงานในสัปดาห์ที่แล้ว โดยอ้างอิงผลการสำรวจขององค์กรที่เป็นตัวแทนระดับชาติของพวกธุรกิจรายเล็ก ระบุว่า กิจการรายเล็กๆ อย่างน้อย 6 ใน 10 มีความเสี่ยงที่จะขาดแคลนเงินสดสำหรับการใช้จ่ายและชำระหนี้ต่างๆ ตามปกติในช่วง 2 เดือนข้างหน้านี้
อู่ฮั่นยังไม่ผ่อนมาตรการคุมเข้ม
ขณะเดียวกันที่เมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย ซึ่งเป็นจุดแรกที่เกิดการระบาดใหญ่คราวนี้ ตอนแรกได้ประกาศในวันจันทร์ (24) ว่า จะอนุญาตให้ผู้คนที่มีสุขภาพดีออกไปจากเมืองได้ถ้ามีเหตุผลความจำเป็นเร่งด่วน ทว่าต่อมาได้เพิกถอนคำแถลงนี้แล้ว
จีนเลื่อนประชุมรัฐสภาประจำปี
ตามรายงานของ ซีซีทีวี สถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของทางการจีน คณะกรรมการประจำของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ (รัฐสภา) ของแดนมังกร ได้ประชุมหารือกันในวันจันทร์ (24) และมีมติว่า “มีความเหมาะสมที่จะเลื่อน” การประชุมเต็มคณะประจำปีซึ่งกำหนดเริ่มขึ้นในวันที่ 5 มีนาคม และจะนัดหมายวันประชุมกันใหม่ต่อไป
ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่มีการเลื่อนประชุมเต็มคณะของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติของจีน ซึ่งแม้ถูกฝ่ายตะวันตกตราหน้าว่าเป็นเพียงสภาตรางยาง แต่ก็มีผู้แทนจากทั่วประเทศเกือบ 3,000 คนมารวมตัวกันเป็นเวลามากกว่าสัปดาห์ ขณะที่พวกผู้นำระดับสูงจำนวนมากก็เข้าร่วม