รอยเตอร์ - ผู้นำโบสถ์ลัทธิชินชอนจี (Shincheonji) ในเกาหลีใต้ซึ่งเวลานี้กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ‘โควิด-19’ ระบุวันนี้ (21 ก.พ.) ว่าเชื้อโรคร้ายดังกล่าวเกิดจากการกระทำของ “ปีศาจ’ และเป็นบททดสอบความศรัทธาของบรรดาสาวก
ลี มันฮี (Lee Man-hee) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งลัทธิ Shincheonji Church of Jesus the Temple of the Tabernacle of the Testimony ขึ้นเมื่อปี 1984 ได้ส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชั่นถึงบรรดาสาวกของเขาว่า “การระบาดของไวรัสครั้งนี้เป็นการกระทำของปีศาจร้าย เพื่อที่จะสกัดขัดขวางการเติบโตของชินชอนจี”
เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 56 รายในวันนี้ (21) ซึ่งทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศอยู่ที่ 156 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่เมืองแทกู (Daegu) เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศซึ่งมีประชากรราว 2.5 ล้านคน
เจ้าหน้าที่โสมขาวพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นคนที่เคยประกอบพิธีกรรมที่โบสถ์ชินชอนจีในเมืองแทกูพร้อมกับหญิงวัย 61 ปีคนหนึ่ง ซึ่งถูกประกาศเป็นผู้ติดเชื้อรายที่ 31 ของประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นายกเทศมนตรีเมืองแทกูระบุวันนี้ (21) ว่า สาวกของโบสถ์ดังกล่าวเริ่มแสดงอาการป่วยแล้วกว่า 400 คน ซึ่งแพทย์อยู่ระหว่างตรวจคัดกรองว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่ ขณะที่ทางการกรุงโซลเริ่มสั่งปิดโบสถ์สาขาของชินชอนจีในเมืองหลวงแล้ว
ประธานาธิบดี มุน แจอิน แห่งเกาหลีใต้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพิธีกรรมของโบสถ์แห่งนี้อย่างใกล้ชิด รวมถึงพิธีศพที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองชองโด (Cheongdo) ซึ่งมีสาวกลัทธิชินชอนจีไปเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก และเวลานี้ได้กลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อไวรัสอีกจุดหนึ่ง
โรงพยาบาลแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เสียชีวิตเป็นรายแรกของเกาหลีใต้
ลี เรียกร้องให้สาวกทุกคนปฏิบัติตามคำสั่งของทางการ และหลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่จะต้องมีการพบปะกัน
“เวลานี้ผู้ศรัทธาของชินชอนจีกำลังตกเป็นเหยื่อของไวรัสตัวนี้ ขอให้พวกเราข้ามผ่านบททดสอบนี้ไปด้วยกันให้ได้” เขากล่าว
รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศให้เมืองแทกูและชองโดเป็นพื้นที่ควบคุมโรค ขณะที่ทหารเกาหลีใต้ก็ได้รับคำสั่งให้เก็บตัวอยู่ในแต่กรมกองเพื่อยับยั้งการระบาด หลังจากเมื่อวานนี้ (20) มีผลตรวจยืนยันว่าทหารจำนวนหนึ่งติดเชื้อไวรัสโควิด-19
