รอยเตอร์ - บริษัท เชลล์ ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สัญชาติอังกฤษ ยืนยันพบพนักงานสัญญาจ้างที่โรงกลั่นน้ำมันบนเกาะ ปูเลา บูกอม (Pulau Bukom) ในสิงคโปร์ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในสิงคโปร์ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 75 ราย
ปูเลา บูกอม เป็นที่ตั้งโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดที่เชลล์เป็นเจ้าของร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้สั่งให้พนักงานบางส่วนที่สำนักงานใหญ่ในฝั่งตะวันตกของสิงคโปร์กลับไปทำงานที่บ้าน หลังพบว่ามีพนักงานอีกคนหนึ่งเคยติดต่อกับผู้ติดเชื้อไวรัส
อย่างไรก็ดี เชลล์ ยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้กระทบต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานทั้ง 2 แห่ง
เชลล์ แถลงเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (14 ก.พ.) ว่า พนักงานสัญญาจ้างที่เกาะ ปูเลา บูกอม มีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 เป็น “บวก” ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ให้ข้อมูลว่า พนักงานเชลล์ชาวสิงคโปร์วัย 30 ปีรายนี้เป็นเครือญาติกับพนักงานธนาคารดีบีเอสที่ติดเชื้อไวรัส โดยตัวเขาเองเริ่มแสดงอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.
ดีบีเอส ซึ่งเป็นสถาบันการเงินรายใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์สั่งอพยพพนักงาน 300 คนออกจากสำนักงานใหญ่ในย่านมารีนาเบย์เมื่อวันพุธที่แล้ว (12) และอนุญาตให้พนักงานเหล่านั้นทำงานจากบ้านได้ หลังมีผลตรวจยืนยันในวันเดียวกันว่าพนักงานวัย 62 ปีคนหนึ่งติดเชื้อไวรัสโควิด-19
โฆษกหญิงของเชลล์ระบุว่า บริษัทได้ดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดทันทีที่ได้รับคำเตือนเกี่ยวกับเคสต้องสงสัย โดยสั่งให้บุคลากรที่ทำงานในพื้นที่เดียวกับพนักงานสัญญาจ้างรายนี้ลางานชั่วคราว
“เราได้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบริเวณจุดปฏิบัติงานของพนักงานรายนี้ รวมถึงพื้นที่ใช้สอยร่วมต่างๆ อย่างถูกต้องตามคำแนะนำ” เธอให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
ทั้งนี้ เชลล์ยังได้มีมาตรการเฝ้าระวังตามที่กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์แนะนำ เช่น ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของพนักงานทั้งที่ ปูเลา บูกอม และสถานปฏิบัติงานอื่นๆ ของเชลล์ในสิงคโปร์
สำหรับโรงงานปิโตรเคมีของเชลล์เชลล์ที่ ปูเลา บูกอม นั้นมีกำลังผลิตน้ำมันสูงสุดถึง 500,000 บาร์เรลต่อวัน
สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากที่สุดนอกจีนแผ่นดินใหญ่ โดยล่าสุดรัฐบาลยืนยันผู้ป่วยใหม่ทั้งหมด 3 รายเมื่อวันอาทิตย์ (16) ซึ่งทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมทั้งประเทศขยับขึ้นไปเป็น 75 ราย