เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(13 ก.พ)อัยการสหรัฐฯแถลงเพิ่มคดีให้กับบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน “หัวเว่ย” และบริษัทลูก 2 แห่งของหัวเว่ยในสหรัฐฯด้วยความผิดฉ้อฉลในการทำธุรกิจกับบริษัทสหรัฐฯ รวมไปถึงการขโมยความลับทางการค้า แต่ล่าสุดหัวเว่ยออกมาโต้ว่า เป็นความพยายามทำลายชื่อเสียงของบริษัท
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(13 ก.พ)ว่า อัยการรัฐบาลกลางสหรัฐฯออกแถลงในวันพฤหัสบดี(13) ว่าได้เพิ่มความผิดต่อบริษัทหัวเว่ยของจีนสำหรับ 2 ข้อหาใหม่
โดยชี้ว่า หัวเว่ยได้ละเมิดข้อตกลงความเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ และยังได้ขโมยความลับทางการค้า เช่น ซอร์สโค๊ด (source code) หรือเทคโนโลยีหุ่นยนต์
ซึ่งถือเป็นการเพิ่มข้อหาอื่นๆที่สหรัฐฯได้ฟ้องหัวเว่ยไว้ในปีที่ผ่านมา โดยมีการระบุว่าทางหัวเว่ยทำการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และได้ขโมยความลับทางการค้าจากบริษัทที-โมเบิล(T-Mobile)ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางหัวเว่ยปฎิเสธ
หัวเว่ยซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลกชี้ว่า สหรัฐฯจ้องโจมตีเพราะการแผ่ขยายของหัวเว่ยเป็นภัยต่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของสหรัฐฯ
ซึ่งในเวลานี้บุตรสาวของผู้ก่อตั้ง เมิ่ง หว่านโจว ยังคงถูกกักอยู่ในแคนาดาระหว่างการต่อสู้เพื่อไม่ให้ถูกส่งตัวเพื่อมาดำเนินคดีในสหรัฐฯ
แถลงการณ์ของหัวเว่ยต่อข้อหาใหม่ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯได้ระบุว่า
“การส่งฟ้องครั้งใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯที่จะสร้างความเสียหายอย่างไม่สามารถเรียกกลับคืนต่อชื่อเสียงของหัวเว่ยและการทำธุรกิจของบริษัทด้วยเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันมากกว่าเหตุผลด้านการบังคับใช้กฎหมาย”
ในคำฟ้องของสหรัฐฯที่ถูกเพิ่มเติมพบว่า สหรัฐฯได้กล่าวหาหัวเว่ยในความผิดการฉ้อฉลและการขโมยความลับ โดยการเปิดเผยจากคำฟ้องในวันพฤหัสบดี(13)ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความพยายามของบริษัทในการเลี่ยงกฎหมายสหรัฐฯเพื่อการทำธุรกิจกับ “อิหร่าน” และ “เกาหลีเหนือ”
ซึ่งอัยการสหรัฐฯระบุว่า หัวเว่ยได้ให้โบนัสแก่พนักงานหากว่า “สามารถได้ความลับสำคัญ” จากบริษัทคู่แข่ง
โดยอัยการสหรัฐฯชี้ว่า สิ่งนี้เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้หัวเว่ยสามารถลดต้นทุนในการวิจัยและการพัฒนาและความล่าช้าที่เกี่ยวข้อง ทำให้ทางบริษัทมีความได้เปรียบเป็นอย่างมากในเชิงการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม
NPR รายงานว่า ในคำฟ้องจำนวน 56 หน้าแสดงให้เห็นถึงวิธีการของหัวเว่ยที่จะให้ได้มาซึ่งความลับทางการค้าจากบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ รวมไปถึงความพยายามในการว่าจ้างพนักงานที่ทำงานในบริษัทคู่แข่ง หรือมีการใช้ “ตัวแทน” เช่นศาสตราจารย์ที่ทำงานในสถาบันวิจัยในการเข้าถึงทรัพย์สินทางปัญญา
การยื่นฟ้องเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดี(13)ที่ศาลแขวงเขตตะวันออกของนิวยอร์กของรัฐบาลกลางสหรัฐฯในเมืองบรุ๊คลิน
ซึ่งทางหัวเว่ยออกโต้ว่า 2 ข้อหาใหม่ที่ถูกรัฐบาลสหรัฐฯยื่นฟ้องนั้นเป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ เป็นเพราะได้เคยถูกฟ้องในศาลแพ่งสหรัฐฯก่อนหน้าแล้ว “สหรัฐฯจะไม่ชนะในคดีเหล่านี้ซึ่งทางเราจะทำการพิสูจน์ว่าไม่ตั้งอยู่ในความเป็นจริงและเป็นเท็จ” รายงานจากแถลงการณ์ของหัวเว่ย