เอเอฟพี - องค์การอนามัยโลก(WHO)ในวันอังคาร(4ก.พ.) ระบุการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสมรณะ ซึ่งแพร่กระจายไปยังหลายสิบประเทศ ยังไม่เข้าองค์ประกอบของโรคระบาดในวงกว้าง เช่นทั่วทั้งทวีปหรือทั่วโลก(pandemic)
"ปัจจุบันเรายังไม่อยู่ในการแพร่ระบาดในวงกว้าง" ซิลวี บรานด์ หัวหน้าฝ่ายเตรียมความพร้อมในภาวะติดเชื้อขั้นร้ายแรงขององค์การอนามัยโลกบอกกับพวกผู้สื่อข่าวในเจนีวา และเธอบอกว่า "เราอยู่ในขั้นที่มันเป็นโรคระบาดที่มีจุดศูนย์กลางหลายจุด"
โวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่คร่าชีวิตผู้คนแล้วมากกว่า 425 รายและมีผู้ติดเชื้อเกิน 20,000 คนแล้วในจีน ในนั้นเกือบทั้งหมดอยู่ในมฑลหูเป่ย ทางภาคกลางของประเทศ ศูนย์กลางของการแพร่ระบาด และนับตั้งแต่ปรากฏตัวในเดือนธันวาคม มันได้แพร่กระจายไปยังหลายสิบประเทศ
บรานด์ กล่าวว่าในขณะที่การแพร่เชื้อลุกลามอย่างรวดเร็วในหูเป่ย พื้นที่อื่นๆนอกมณฑลแห่งนี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเคสที่กระจัดกระจาย มีกลุ่มก้อนการแพร่เชื้อประปราย
"ในพื้นที่อื่นๆเหล่านั้นในประเทศจีน ยุทธศาสตร์ปัจจุบันคือหยุดการแพร่เชื้อ" เธอกล่าว พร้อมระบุว่าประเทศที่ได้รับผลกระทบอื่นๆนอกประเทศจีนก็มีข้อเท็จจริงแบบเดียวกัน "เราอยากทำให้มั่นใจว่าเราจะไม่มีลักษณะเหตุการณ์หูเป่ย 2" หัวหน้าฝ่ายเตรียมความพร้อมในภาวะติดเชื้อขั้นร้ายแรงขององค์การอนามัยโลกระบุ
เจ้าหน้าที่ในจีนใช้มาตรการต่างๆนานาในความพยายามระงับการแพร่เชื้อ ในขณะที่ประเทศอื่นๆซึ่งได้รับผลกระทบก็บังคับใช้มาตรการต่างๆเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดเช่นกัน
"ประเทศต่างๆกำลังดำเนินการตรวจหาเคสผู้ติดเชื้อตั้งแต่ต้นๆ กักกันโรคและรักษาผู้ป่วยตั้งแต่แรกๆ แกะรอยผู้สัมผัสโรคเพื่อทำให้แน่ใจว่าจะสามารถระบุตัวพวกเขาตั้งแต่เนิ่นๆก่อนที่จะแสดงอาการ" บรานด์กล่าว "เราหวังว่าบนพื้นฐานของมาตรการต่างๆในหูเป่ย เช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆที่เชื้อโรคแพร่กระจายไป เราจะสามารถหยุดการแพร่เชื้อและกำจัดไวรัสนี้ได้สำเร็จ"
อย่างไรก็ตามเธอยอมรับว่าการหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่คือความท้าทาย "ฉันไม่ได้บอกว่ามันง่าย แต่เราเชื่อว่ามันสามารถจบลงได้"
โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจชนิดนี้แพร่เชื้อผ่านละอองฝอย อาทิตอนที่ไอหรือจาม หรือผ่านการสัมผัสโดยตรงกับผู้ติดเชื้อ หรือสัมผัสกับสิ่งของที่ผู้ติดเชื้อสัมผัส
กระนั้น บรานด์ ระบุยังคงไม่ชัดเจนว่าไวรัสจะอยู่บนสิ่งของต่างๆได้นานแค่ไหน พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นของการล้างมือบ่อยๆเพื่อป้องกันตนเองจากการติดเชื้อ
"เพื่อหยุดการแพร่เชื้อของไวรัสชนิดนี้ มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่ผู้มีอาการป่วยต้องสวมหน้ากากเพื่อหลีกเลี่ยงแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น" เธอกล่าวแม้ไม่ชัดเจนว่าการสวมหน้ากากอนามัยของคนที่มีสุขภาพแข็งแรงอยู่แล้วในมาตรการป้องกันไว้ก่อน จะก่อประโยชน์มากน้อยแค่ไหน
นอกจากนี้เธอยังแนะนำด้วยว่าคนที่สวมหน้ากากแต่ไม่ได้ใช้มาตรการอื่นๆ อย่างเช่นล้างมือบ่อยๆ ก็อาจไม่ปลอดภัยจากติดเชื้อ "สวมหน้ากากอนามัยเพียงอย่างเดียวไม่พอ คุณจำเป็นต้องใช้มาตรการต่างๆ ถ้าคุณใช้ทุกมาตรการครบเซ็ต ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่หากใช้เพียงแค่หน้าหาก ฉันคิดว่าไม่เพียงพอ"