มาร์เกตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันพฤหัสบดี (16 ม.ค.) จากข่าวอเมริกาเห็นชอบข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา หนึ่งวันหลังจากวอชิงตันและปักกิ่งลงนามในข้อตกลงการค้า ทั้งสองปัจจัยดันวอลล์สตรีททุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ทองคำปิดลบ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 71 เซ็นต์ ปิดที่ 58.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 62 เซ็นต์ ปิดที่ 64.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
วุฒิสภาสหรัฐฯ ให้การอนุมัติข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 89-10 เสียง ก่อนส่งต่อไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อลงนามเป็นกฎหมายต่อไป
สำหรับขั้นตอนต่อไป รัฐสภาแคนาดาจะต้องให้การรับรองข้อตกลงดังกล่าว ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ
ข้อตกลง USMCA จะนำมาทดแทนข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ และการจ้างงานในสหรัฐฯ ขณะที่ USMCA จะแก้ไขช่องโหว่ใน NAFTA โดยช่วยให้สหรัฐสามารถเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์นมในแคนาดา ขณะเดียวกันก็จะเพิ่มความเข้มงวดในอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยการกำหนดกฎเกี่ยวกับแหล่งที่มาของชิ้นส่วนยานยนต์ และระบุให้ชิ้นส่วนรถยนต์อย่างน้อย 40% จะต้องถูกผลิตในโรงงานที่แรงงานได้ค่าแรงอย่างน้อย 16 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง
นอกจากนี้ ข้อตกลง USMCA ยังมีเป้าหมายที่จะปรับปรุงกฎระเบียบเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ และทะเบียนการค้าในระบบดิจิทัล
ปัจจัยดังกล่าวประกอบกับข้อตกลงการค้าจีนกับสหรัฐฯ, รายงานผลประกอบการอันแข็งแกร่งของบริษัทต่างๆ และข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สดใส่ของอเมริกา ช่วยดันวอลล์สตรีททุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกรอบในวันพฤหัสบดี (16 ม.ค.)
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 267.42 จุด (0.92 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 29,297.64 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 27.52 จุด (0.84 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,316.81 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 98.44 จุด (1.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,357.13 จุด
อเมริกา-จีนสงบศึกการค้าชั่วคราว หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และรองนายกรัฐมนตรี หลิว เหอ ของจีน ร่วมลงนามข้อตกลงการค้าเฟส 1 ซึ่งระบุว่า ปักกิ่งตกลงซื้อสินค้าและบริการจากอเมริกาเพิ่ม 200,000 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 2 ปี แลกกับการที่วอชิงตันยอมลดภาษีศุลกากรบางส่วนที่บังคับใช้ก่อนหน้านี้
ในงานแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพุธ (15 ม.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยกย่องว่า ข้อตกลงนี้เป็นชัยชนะของเศรษฐกิจอเมริกาและนโยบายการค้าของคณะบริหารของตน รวมทั้งยังเป็นการแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีต และเริ่มต้นอนาคตทางเศรษฐกิจที่เป็นธรรมและมั่นคงสำหรับแรงงาน เกษตรกร และครอบครัวอเมริกัน ทรัมป์ยังขอบคุณประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และเสริมว่า จะเดินทางเยือนปักกิ่งในอนาคต
รองนายกรัฐมนตรี หลิว เหอ อ่านจดหมายจากสีที่ยกย่องข้อตกลงนี้เช่นเดียวกันว่า เป็นผลดีต่อทั้งจีน อเมริกา และโลก อีกทั้งยังเป็นสัญญาณว่า จีนและอเมริกาสามารถแก้ไขความคิดเห็นที่แตกต่างด้วยการเจรจา ประมุขแดนมังกรสำทับว่า จะคงการติดต่อเป็นการส่วนตัวกับทรัมป์
ประเด็นสำคัญของข้อตกลงเฟส 1 คือ คำมั่นจากจีนในการสั่งซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มเติมจากมูลค่าฐาน 186,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2017 ภายในระยะเวลา 2 ปี ตลอดจนให้การปกป้องเทคโนโลยีของอเมริกา และกลไกการบังคับใช้ใหม่ที่เปิดโอกาสให้วอชิงตันออกมาตรการลงโทษอย่างรวดเร็ว หากปักกิ่งละเมิดข้อตกลง
ทำเนียบขาวแจงว่า จีนตกลงสั่งซื้อพลังงานเพิ่ม 54,000 ล้านดอลลาร์, สินค้าอุตสาหกรรม 78,000 ล้านดอลลาร์, สินค้าเกษตร 32,000 ล้านดอลลาร์ และบริการ 38,000 ล้านดอลลาร์
ข้อตกลงขั้นต้นยังระบุว่า อเมริกาจะยกเลิกมาตรการภาษีศุลกากรที่เตรียมเรียกเก็บจากโทรศัพท์มือถือ ของเล่น และแล็ปท็อบของจีน รวมทั้งลดอัตราภาษีศุลกากร 7.5% ที่เรียกเก็บจากสินค้าจีนอื่นๆ อาทิ ทีวีจอแบน หูฟังบลูทูธ และรองเท้า ลงกึ่งหนึ่ง แต่จะยังคงอัตราภาษีศุลกากร 25% สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมและส่วนประกอบของจีนรวมมูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์ เช่นเดียวกับจีนที่ยังคงมาตรการภาษีตอบโต้สินค้าอเมริกันมูลค่ากว่า 100,000 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้แล้ว ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้แรงหนุนจากข้อมูลทางเศรษฐกิจ หลังพบว่ายอดค้าปลีกในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนธันวาคม และตัวเลขผู้เข้าร่วมสิทธิประโยชน์คนว่างงานลดลง 5 สัปดาห์ติด เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (16 ม.ค.) ปรับลดเล็กน้อย นักลงทุนเมินสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ จากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สดใสบางส่วนของสหรัฐฯ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,550.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
