เอเจนซีส์ – หลัง แนนซี เพโลซี ประธานสภาคองเกรสสหรัฐฯกักเรื่องถอดถอนมานาน ล่าสุดวันนี้(15 ม.ค)ตามเวลาสหรัฐฯสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯมีกำหนดที่จะลงมติส่งเรื่องถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ให้กับวุฒิสภาสหรัฐฯ ด้านผู้นำสภาสูง มิตช์ แม็คคอนเนล เปิดเผยคาดกระบวนการสอบสวนจะเริ่มต้นได้ในสัปดาห์หน้า พรรคเดโมแครตดีเบตก่อนการโหวตคอคัสรัฐไอโอวา สว.วอร์เรนปะทะสว.แซนเดอร์ส
NBC News รายงานเมื่อวานนี้(14 ม.ค)ว่า ผู้นำสภาคองเกรสสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี ได้เปิดเผยในวันอังคาร(14)ว่า สภาล่างสหรัฐฯจะทำการโหวตลงมติในวันพุธ(15)ถึงการส่งเรื่องถอดถอนการสอบสวนผู้นำสหรัฐฯตามมติ 2 มาตราความผิดไปให้กับสภาสูงสหรัฐฯ
“สภาล่างในเวลานี้จะเริ่มกระบวนการโหวตส่งมอบมติ 2 มาตราความผิดในการถอดถอนพร้อมกับประกาศชื่อคณะกรรมการถอดถอนในวันพุธ(15)” เพโลซีกล่าวผ่านแถลงการณ์ และเสริมต่อว่า “ประธานาธิบดีสหรัฐฯและวุฒิสมาชิกจะเป็นผู้ที่รับผิดชอบ”
สื่อสหรัฐฯชี้ว่าการส่งมอบหาสภาสูงสหรัฐฯเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเริ่มต้นกระบวนการสอบสวนที่ทางสมาชิกสภาคองเกรสคาดว่าจะเริ่มได้ในวันอังคาร(21)
ที่ผ่านมาเพโลซีกักเรื่องถอดถอนมานานหลายสัปดาห์หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯได้ลงมติให้ทำการถอดถอนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
ซึ่งทางผู้นำเสียงข้างน้อยสภาสูงสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต ชัค ชูเมอร์ (Chuck Schumer)ได้เรียกร้องให้ทางสภาสูงออกคำสั่งเรียกตัวพยาน 4 ปากรวมถึง หัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาว มิค โมลเวนีย์ (Mick Mulvaney) และอดีตที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาว จอห์น โบลตัน ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวประกาศเข้าให้การหากถูกเรียกแต่ผู้นำสหรัฐฯได้ออกมาชี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เขาจะขัดขวางไม่ให้โบลตันขึ้นให้การ
ในขณะที่ผู้นำสภาสูง มิตช์ แม็คคอนเนล เปิดเผยเมื่อวานนี้(14)ว่า เขาเชื่อว่า กระบวนการในส่วนของสภาสูงสหรัฐฯจะสามารถเริ่มต้นขึ้นได้ในวันอังคารหน้า(21) แต่เขาย้ำว่าวันที่จะเริ่มกระบวนการนี้ขึ้นอยู่กับประธานสภาสหรัฐฯในการส่งมอบเรื่องถอดถอนมาให้ในวันพุธ(15)ตามที่เพโลซีกล่าวว่าจะกระทำเช่นนั้นหากสภาล่างสหรัฐฯโหวตเห็นชอบ
แม็คคอนเนลกล่าวว่า ทางสภาสูงจะเริ่มต้นการเตรียมพร้อมในสัปดาห์นี้ และเขากล่าวอย่างตอกย้ำว่า มีเสียงสนับสนุนในมือในส่วนของพรรครีพับลิกันอยู่ 53 เสียงในกระบวนการเริ่มต้นกำหรับยกรอบกระบวนการที่จะดำเนินไปข้างหน้า
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานวันนี้(15)ว่าในขณะเดียวกันในคืนที่ผ่านมามีการดีเบตในฝั่งพรรคเดโมแครตของผู้เสนอตัวลงชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯปี2020ก่อนรอบโหวตคอคัสของรัฐไอโอวา มีร่องรอยการแตกแยกระหว่างตัวแทนสายโปรเกรสซีฟระหว่างสว. เอลิซาเบธ วอร์เรน และสว. เบอร์นี แซนเดอร์ส โดยวอร์เรนปฎิเสธที่จะจับมือเชคแฮนด์กับแซนเดอร์ส
ทั้งนี้แซนเดอร์สได้ออกมาปฎิเสธการรายงานจำนวนมากที่อ้างว่า เขาเคยกล่าวกับวอร์เรนเป็นการส่วนตัวในปี 2018 ว่าเขาไม่เชื่อว่า “ผู้หญิง” จะสามารถเอาชนะ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ในการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งวอร์เรนได้ออกมายืนยันการสนทนาไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก CNN เปิดเผยต่อสาธารณะ
“ในความเป็นจริงผมไม่ได้กล่าวเช่นนั้น” แซนเดอร์สกล่าว และเสริมว่า “ใครที่รู้จักผมก็ต้องรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะคิดว่าผู้หญิงไม่สามารถเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ”
เดลีบีสต์ สื่อการเมืองรายงานว่า วอร์เรนไม่ได้ถูกถามตรงๆว่าแซนเดอร์สโกหกหรือไม่ แต่เธอได้ตอบกลับมาว่า เมื่อแซนเดอร์สกล่าวว่า เขาไม่รู้สึกว่าผู้หญิงสามารถชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2020 ได้ เธอกล่าวว่า “ดิฉันไม่เห็นด้วย” และเสริมว่า “เบอร์นีถือเป็นเพื่อนของดิฉัน และดิฉันไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อต่อสู้กับเบอร์นี..มีคำถามเกิดขึ้นและมันถึงเวลาที่เราต้องย้ำหัวตะปู”
อ้างอิงจาก MSNBC สื่อสหรัฐฯพบว่ามีผู้สมัครทั้งหมด 6 คนที่ยืนอยู่บนเวทีดีเบตล่าสุดคืนวันอังคาร(14)ในเมืองดิมอยน์ รัฐไอโอวา
ซึ่งในช่วงแรกของการปะทะคารมส่วนใหญ่อยู่ในประเด็นนโยบายการต่างประเทศสหรัฐฯจากการที่สถานการณ์อิหร่าน-สหรัฐฯเพิ่มความตรึงเครียด โดยผู้สมัครต่างได้ออกมาแสดงวิสัยทัศน์ถึงนโยบายสหรัฐฯในตะวันออกกลางของแต่ละคนที่ส่วนใหญ่ต่างออกมาเตือนถึงการเข้าสู่สงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น แต่แซนเดอร์สได้วิจารณ์อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดนถึงการโหวตปี 2002 ของเขาในเรื่องการสนับสนุนสงครามอิรัก